ศึกชิงโล่คอมมูนิตี้ชิลด์ ลิเวอร์พูลพร้อมส่งนูนเญซ ปะทะฮาแลนด์ของ แมนฯ ซิตี้

พรีวิวฟุตบอล เอฟเอ คอมมูนิตี้ ชิลด์

ลิเวอร์พูล พบ เเมนฯ ซิตี้

สนาม : คิงเพาเวอร์ สเตเดี้ยม

เวลา : 23:00 น วันเสาร์ที่ 30 กรกฎาคม 2565 (bein Sports 1 ช่อง 607)

แมนฯ ซิตี้ 

ทีมของ เป๊ป กวาร์ดิโอล่า ยังคงแข็งแกร่งอยู่เหมือนเดิม แม้ว่าจะมีการปล่อยนักเตะอย่าง ราฮีม สเตอร์ลิ่ง, กาเบรียล เชซุส และ โอเล็กซานเดอร์ ซินเชนโก้ ออกไป แต่ก็มีการเสริมทีมที่ดีเข้ามาทดแทน ไม่ว่าจะเป็น เออร์ลิ่ง เบราท์ ฮาแลนด์ ยอดกองหน้าทีมชาตินอร์เวย์จาก โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์, คาลวิน ฟิลลิปส์ กองกลางทีมชาติอังกฤษจาก ลีดส์ ยูไนเต็ด และ ฮูเลียน อัลวาเรซ กองหน้าทีมชาติอาร์เจนติน่าจาก ริเวอร์เพลท

นอกจากนี้ บรรดาแข้งใหม่ต่างโชว์ฟอร์มในเกมอุ่นเครื่องสองเกมที่ผ่านมาได้ดี ทั้งในเกมที่เอาชนะ คลับ อเมริกา 2-1 และเกมล่าสุดที่เฉือนชนะ บาเยิร์น มิวนิค 1-0 โดยในเกมที่เจอกับทีมเสือใต้ เออร์ลิ่ง ฮาแลนด์ สามารถยิงประตูได้หลังใช้เวลาในสนามเพียง 12 นาทีเท่านั้น

ในส่วนของสภาพทีมในเกมนี้ ทีมเรือใบสีฟ้ามีทีมที่ค่อนข้างสมบูรณ์ ไม่มีปัญหานักเตะบาดเจ็บ โดยเกมนี้ เป๊ป กวาร์ดิโอล่า สามารถเลือกใช้นักเตะชุดใหญ่ลงสนามได้ทั้งหมด รวมถึงดาวดวงใหม่อย่าง เออร์ลิ่ง ฮาแลนด์ ที่คาดว่าน่าจะได้ออกสตาร์ทเป็นตัวจริง

ลิเวอร์พูล

ทีมหงส์แดงของ เจอร์เก้น คล็อปป์ มีความเปลี่ยนแปลงในทีมอยู่พอสมควร โดยข่าวดีแรกคือการที่ โมฮาเหม็ด ซาลาห์ ดาวยิงหมายเลขหนึ่งของทีมตกลงต่อสัญญาฉบับใหม่ออกไปจนปี 2025 ด้วยค่าเหนื่อยที่แพงที่สุดในประวัติศาสตร์ของลิเวอร์พูล แต่พวกเขาก็ต้องเสีย ซาดิโอ มาเน่ แนวรุกตัวสำคัญของพวกเขาไปให้กับ บาเยิร์น มิวนิค ทำให้ต้องทุ่มเงินสูงถึง 100 ล้านยูโร ไปคว้าตัว ดาร์วิน นูนเญซ ศูนย์หน้าชาวอุรุกวัยวัย 23 ปีของ เบนฟิก้า เข้ามาทดแทน ซึ่งก็เพิ่งจะระเบิดฟอร์มในเกมอุ่นเครื่องที่ถล่ม แอร์เบ ไลป์ซิก ไปขาดลอย 5-0 โดยเกมนี้ นูนเญซ ทำไปถึง 4 ประตู

นอกจากนี้ก็เป็นพวกแข้งดาวรุ่งที่ดึงเข้ามาเพื่ออนาคตอย่าง ฟาบิโอ คาร์วัลโญ่ กองกลางอนาคตไกลที่ดึงมาจาก ฟูแล่ม และ คาลวิน แรมซี่ย์ แบ็กดาวรุ่งวัย 18 ปีที่ดึงมาจาก อเบอร์ดีน

ในส่วนของสภาพทีมนั้น ลิเวอร์พูล จะยังไม่มี คาลวิน แรมซี่ย์ ที่ยังไม่ฟิต รวมถึง อลิสซง เบคเกอร์ นายทวารมือหนึ่งที่แม้ว่าจะกลับมาซ้อมได้แล้ว หลังมีอาการเจ็บกล้ามเนื้อหน้าท้อง แต่คาดว่าไม่น่าจะได้ลงเฝ้าเสาในเกมนี้ ทำให้ อาเดรียน จะได้รับหน้าที่แทนต่อไป เพราะ ควีวิน เคลเลเฮอร์ นายทวารมือสองก็มีอาการบาดเจ็บเช่นกัน ส่วนที่เหลือไม่น่ามีปัญหา น่าจะเป็นผู้เล่นทีมชุดใหญ่ทั้งหมด

ผู้เล่นที่คาดว่าจะลงสนาม

ลิเวอร์พูล (4-3-3) : อาเดรียน : เทรนท์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์, อิบราฮิม่า โกนาเต้, เฟอร์จิล ฟาน ไดค์, แอนดี้ โรเบิร์ตสัน : ติอาโก้ อัลกันตาร่า, ฟาบินโญ่, จอร์แดน เฮนเดอร์สัน : หลุยส์ ดิอาซ, ดาร์วิน นูนเญซ, โมฮาเหม็ด ซาลาห์

แมนฯ ซิตี้ (4-3-3) : เอแดร์ซอน โมราเอส : ไคล์ วอล์คเกอร์, รูเบน ดิอาส, จอห์น สโตนส์, ชูเอา กานเซโล่ : แบร์นาโด้ ซิลวา, โรดรี้, เควิน เดอ บรอยน์ : ริยาด มาห์เรซ, เออร์ลิ่ง ฮาแลนด์, แจ็ค กรีลิช

ความน่าจะเป็น : เป็นเกมที่อันที่จริงแล้วไม่ได้มีความหมายอะไรมาก ถึงจะมีโล่เกียรติยศเป็นเดิมพันก็ตาม อย่างไรก็ดี การพบกันครั้งนี้ระหว่าง ลิเวอร์พูล กับ แมนฯ ซิตี้ ถือว่าเป็นการวัดกันยกแรกว่าใครจะมีความพร้อมมากกว่ากัน เนื่องจากนี่คือสองทีมที่น่าจะเป็นทีมมีลุ้นแย่งแชมป์พรีเมียร์ลีกในฤดูกาลที่กำลังจะมาถึงมากที่สุด ดังนั้นใครที่เป็นฝ่ายเล่นได้ดีกว่าและเอาชนะได้ก่อนในเกมนี้ ก็น่าจะเป็นการตัดไม้ข่มนามก่อนไปในตัว นั่นทำให้ต่อให้เป็นที่ไม่ได้สำคัญ แต่ทั้งสองทีมจะเล่นกันอย่างจริงจังแน่นอน เพียงแต่ในภาพรวม ความพร้อมทางฝั่ง แมนฯ ซิตี้ น่าจะมีมากกว่า

สกอร์ที่คาด : ลิเวอร์พูล 1-2 แมนฯ ซิตี้

Content by : Archjananun Krittanat [MEK]