เช็กโปรแกรมดาร์บี้แมตช์! ที่จะส่งผลต่อการลุ้นแชมป์พรีเมียร์ลีก

เช็กโปรแกรมดาร์บี้แมตช์! ที่จะส่งผลต่อการลุ้นแชมป์พรีเมียร์ลีก
อย่างที่แฟนบอลทราบกันดีว่าศึก "ดาร์บี้แมตช์" จะเป็นการแข่งขันของ 2 ทีมร่วมเมืองเดียวกัน ซึ่งจุดนี้เองที่ทำให้แต่ละฝ่ายไม่มีใครยอมใคร เพราะด้วยความที่ศักดิ์ศรีมันค้ำคอ

แต่ละลีกก็จะมีเกมดาร์บี้แมตช์เป็นจุดสนใจ เช่นเดียวกันกับศึกพรีเมียร์ลีก อังกฤษ ที่มีเกมดาร์บี้แมตช์เกิดขึ้นหลายเมือง แต่ก็ต้องยอมรับว่าไฮไลท์ที่หยุดทุกสายตาของแฟนบอล ไม่ใช่เฉพาะแค่ทีมตัวเองก็เห็นจะเป็นการพบเจอกันของบรรดาบิ๊กทีมร่วมเมือง

อย่างศึกแมนเชสเตอร์ดาร์บี้แมตช์ ที่ไม่ว่าจะเจอกันในยุคสมัยใดต่างก็มีดีกรีความเข้มข้นเต็มอัตราศึกทั้งในและนอกสนาม ย้อนกลับไปในยุคที่ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด รุ่งเรืองอำนาจ ก็มักจะเป็นฝ่ายที่กำชัยชนะได้บ่อยครั้ง แต่ถ้ามองลงลึกในรายละเอียดของเกมก็ไม่มีนัดไหนที่เก็บ 3 คะแนนได้ง่ายๆเลย

หรืออย่างในช่วงเวลาปัจจุบัน ที่ถึงคราวของ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ครองอำนาจ สวนทางกับเพื่อนบ้าน ทัพ "เรือใบสีฟ้า" ก็จะเต็มที่และใส่สุดตัวทุกครั้ง เพื่อเก็บชัยชนะให้ได้อย่างเด็ดขาด แม้ว่าอันดับในตารางคะแนนจะนำห่างขนานไหน แต่ก็ไม่มีคำว่าออมมือ หรือบางทีสกอร์นำห่างก็ยังเดินเครื่องบุกเต็มกำลัง เพื่อความสะใจของแฟนบอล

ศึกแมนเชสเตอร์ดาร์บี้แมตช์ ในฤดูกาลใหม่ที่กำลังจะเปิดฉากขึ้น มีกำหนดวางคิวออกมาเป็นที่เรียบร้อย โดยเกมแรกจะไปเตะกับที่สนามเอติฮัด สเตเดียม ในวันที่ 1 ตุลาคม 2565 จากนั้นในช่วงเลก2 จะโยกไปเตะที่โอลด์แทรฟฟอร์ด ในวันที่ 14 มกราคม 2566 ซึ่งก็ไม่รู้ว่าเมื่อถึงเวลานั้นสถานการณ์ของทั้งสองทีมจะเป็นเช่นไร

แต่ถึงอย่างไรก็ตามมันจะเป็นเกมดาร์บี้แมตช์ที่ได้รับความสนใจจากทุกสายตาแน่นอน เพราะขึ้นชื่อว่า 2 ทีมจากเมืองแมนเชสเตอร์ เจอกันทั้งที ไม่มีใครอยากจะพลาดอยู่แล้ว

ถัดมาเป็นศึกเมอร์ซีย์ไซด์ดาร์บี้ ของสองทีมที่สนามเหย้าของพวกเขาเดินเพียงไม่กี่อึดใจก็ไปมาหาสู่กันได้ นั่นคือเกมการพบกันระหว่าง เอฟเวอร์ตัน กับ ลิเวอร์พูล

ด้วยความที่สองสโมสรใกล้ชิดกันมากทำให้แฟนบอลท้องถิ่นบางบ้านถึงขนาดเชียร์กันคนละทีม ซึ่งอันนี้ก็ห้ามกันไม่ได้ เพราะขึ้นอยู่กับความศรัทธาของแต่ละคน

แม้จะได้ชื่อว่าเป็นทีมบ้านใกล้เรือนเคียง แต่ในสนามใส่สุดตัว เดือดทุกนัด ไม่ว่าอันดับในตารางคะแนนจะเป็นอย่างไร ไม่ได้มีผลกับความเข้มข้นของเกมในสนามเลย

อย่างเมื่อฤดูกาลที่แล้ว เอฟเวอร์ตัน ต้องเผชิญกับสถานการณ์หนีตาย สวนทางกับ ลิเวอร์พูล ที่ลุ้นแชมป์เต็มตัว แต่ยามเมื่อเจอกันทัพ "หงส์แดง" ก็มักจะเจอกับความยากลำบาก กว่าจะเก็บชัยชนะไปได้

ศึกเมอร์ซีย์ไซด์ดาร์บี้ ในฤดูกาลใหม่ที่กำลังจะมาถึงถูกวางให้ เอฟเวอร์ตัน ได้เล่นในบ้านของตัวเองก่อน ในวันที่ 3 กันยายน 2565 จากนั้นจึงมีคิวออกไปเยือนถิ่น แอนฟิลด์ ในวันที่ 11 กุมภาพันธ์ 2566

ดูจากสถานการณ์น่าจะทำให้การเจอกันของทั้งสองทีมแตกต่างจากปีที่แล้ว เพราะทางฝั่งเอฟเวอร์ตัน ก็คงไม่อยากที่จะมาหนีตกชั้นอีกแล้ว จึงต้องปรับปรุงทีม ยกระดับให้สูงขึ้น

ขณะที่ ลิเวอร์พูล การพลาดแชมป์ลีกในซีซั่นที่แล้วยิ่งจะเพิ่มความกระหายทำให้พวกเขามีแรงไล่ล่าความสำเร็จเป็นทวีคูณ เพราะฉะนั้นการเจอกันในซีซั่นใหม่ จะเป็นอะไรที่น่าตื่นตาตื่นใจอย่างแน่นอน

อีกหนึ่งเกมดาร์บี้แมตช์ที่ใส่สุดตัว บวกได้เป็นบวก และพร้อมจะหยุดทุกสายตาจากแฟนบอลนั่นคือศึกนอร์ธลอนดอนดาร์บี้แมตช์ ระหว่าง ท็อตแน่ม ฮอตสเปอร์ กับ อาร์เซน่อล ที่เจอกันเมื่อไรก็พร้อมมีใบแดงเกิดขึ้นตลอดเวลา

แถมนอกเหนือจากการแข่งขันในสนามแล้ว นอกสนามพวกเขายังแย่งชิงความยิ่งใหญ่กันมาตลอดทุกยุค อย่างในเรื่องของรังเหย้าที่ก่อนหน้านี้ทัพ "ไอ้ปืนใหญ่" เปลี่ยนจากสนามไฮบิวรี่ ไปเป็น เอมิเรตส์สเตเดียม ที่มีความจุมากกว่าเดิม

เวลาผ่านไปไม่นานทางฝั่ง สเปอร์ ก็เดินหน้าสร้างสนามท็อตแนม ฮ็อตสเปอร์ สเตเดียม ที่มีความจุหลัก 6 หมื่นคนขึ้นไป และสิ่งอำนวยความสะดวกแบบจัดเต็มมาเทียบเคียงเช่นกัน นับเป็นการช่วงชิงความยิ่งใหญ่ของยุคอย่างแท้จริง

แถมเมื่อซีซั่นที่ผ่านมาพวกเขายังบังเอิญต้องมาขับเคี่ยวแย่งตั๋วยูฟ่า แชมเปียนส์ลีก ใบสุดท้ายอีกด้วย ก่อนที่จะเป็น สเปอร์ สมหวังไป เพราะฉะนั้นการเจอกับในฤดูกาลใหม่ น่าจะเป็นอีกหนึ่งเกมที่ตัดสินกลายๆว่าในยุคสมัยนี้ใครจะครองความยิ่งใหญ่แห่งแถบลอนดอนเหนือ

ศึกนอร์ทลอนดอนดาร์บี้แมตช์ ถูกวางให้ อาร์เซน่อล ได้เล่นในบ้านของตัวเองก่อน ในวันที่ 1 ตุลาคม 2565 จากนั้นถึงคิว สเปอร์ ที่จะได้กลับในเล่นในบ้านบ้าง วันที่ 14 มกราคม 2566

จะเห็นได้ว่าโปรแกรมทั้งสองนัดไปตรงกับเกมดาร์บี้แมตช์ของเมืองแมนเชสเตอร์ พอดิบพอดี แค่คิดภาพเล่นๆ สัปดาห์นั้นก็น่าจะเป็นอะไรที่ดุเดือดเลือดพล่านกันเลยทีเดียว

ผ่านไปแล้วกับ 3 เกมดาร์บี้แมตช์ที่พร้อมหยุดทุกสายตา แถมท้ายอีก 1 ไฮไลท์สำคัญที่แม้ไม่ใช่ดาร์บี้แมตช์ แต่เป็นเกมตัดสินแชมป์ของ 2 ทีมแห่งยุคนี้ ระหว่าง แมนเชสเตอร์ ซิตี้ กับ ลิเวอร์พูล ที่ยามเจอกันเมื่อไรก็ทันกันทุกอย่าง 2 เกมในซีซั่นที่แล้วลงเอยด้วยผลเสมอ 2-2 ทั้งสองนัด

การเสริมทัพ การปรับเปลี่ยนที่ในช่วงปิดฤดูกาลของทั้งสองทีม ยิ่งทำให้การเจอกันของพวกเขามีความน่าสนใจมากยิ่งขึ้น เหนือสิ่งอื่นใดเวลาเจอกันแต่ละครั้งไม่มีทีมไหนอุด เมื่อมีโอกาสก็พร้อมเดินหน้าบุกเข้าใส่ทันที มันจึงเป็นผลกำไรที่เกิดขึ้นจากแฟนบอลที่จะได้ชมเกมสนุกสุดมันสมกับเป็น 2 ทีมเบอร์ต้นของยุคนี้

เกมตัดสินแชมป์ถูกวางให้ ลิเวอร์พูล เป็นฝ่ายได้เล่นในบ้านก่อน ในวันที่ 15 ตุลาคม 2565 จากนั้นจะโยกไปเตะที่แมนเชสเตอร์ ในวันที่ 1 เมษายน 2566 ซึ่งดูจากช่วงไทม์ไลน์จะเป็นโค้งสุดท้ายของการแข่งขัน ดีไม่ดีสถานการณ์อาจจะกำลังขับเคี่ยวแย่งแชมป์กันเหมือนอย่างในซีซั่นที่ผ่านมาก็เป็นได้

4 เกมที่ได้กล่าวมาข้างต้นนี้ จึงเป็นอะไรที่แฟนฟุตบอลห้ามพลาดด้วยประการทั้งปวง! โดยเฉพาะคอบอลอังกฤษ ที่ชอบความตื่นเต้น ดุดัน ใส่สุดตัว ได้โปรดกาปฏิทินรอเอาไว้ได้เลย...แล้วมามันพร้อมกันผ่านทางทรูวิชั่นส์

getty images

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

อัปเดตข่าวล่าสุดก่อนใคร :

Website : www.truevisions.co.th

Facebook : Truevisions

Twitter : @TrueVisions

Line : @Truevisions

Youtube official : Truevisionsofficial

Instagram : Truevisionsofficial