เลวานดอฟสกี้เชื่อย้ายซบบาร์ซ่า ช่วยลุ้นคว้าบัลลงดอร์มากขึ้น

เลวานดอฟสกี้ ตัดสินใจย้ายจาก บาเยิร์น มิวนิค มาร่วมทีม บาร์เซโลน่า ในตลาดนักเตะช่วงซัมเมอร์ที่ผ่านมา ซึ่งกว่าจะลงเอยกันได้ก็ต้องใช้เวลาอยู่นาน เนื่องจากทีมเสือใต้ไม่ต้องการปล่อยตัวเขาออกจากทีม และเรียกค่าตัวในราคาแพงพอสมควร ทำให้ต้องมีการเจรจากันอยู่พักใหญ่ แต่สุดท้ายกองหน้าวัย 34 ปีก็สมหวังได้ย้ายมายังถิ่น คัมป์ นู ในที่สุด ด้วยค่าตัวที่สูงถึง 50 ล้านยูโรรวมโบนัส

ซึ่งการตัดสินใจครั้งนี้ของ เลวานดอฟสกี้ ในการย้ายมาเล่นในสเปนนั้นถือว่าไปได้สวย เมื่อยิงไปแล้ว 11 ประตูจากการลงสนาม 8 เกมในทุกรายการ ขณะที่ใน ลา ลีกา ลงสนามไป 6 นัด ยิงไป 8 ประตู นำเป็นดาวซัลโวของลีกอยู่ในเวลานี้ และนั่นทำให้ เลวานดอฟสกี้ เชื่อว่า การได้มาอยู่กับทีมอย่าง บาร์เซโลน่า จะทำให้เขามีลุ้นรางวัลบัลลงดอร์ หรือนักเตะยอดเยี่ยมของโลกแห่งปี ที่มอบโดยนิตยสาร ฟร้องซ์ ฟุตบอล มากกว่าเดิม

ทั้งนี้ ย้อนกลับไปเมื่อปี 2020 ในปีดังกล่าว เลวานดอฟสกี้ คือตัวเต็งที่จะคว้ารางวัลลูกบอลทองคำ จากผลงานส่วนตัวอันยอดเยี่ยม รวมไปถึงผลงานในระดับสโมสรกับ บาเยิร์น มิวนิค แต่กลับกลายเป็นว่าปีดังกล่าวไม่มีการแจกรางวัล เนื่องจากเหตุการณ์แพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19

ขณะที่ในปี 2021 เลวานดอฟสกี้ ก็ยังคงเล่นได้อย่างยอดเยี่ยม โดยยิงไปถึง 50 ประตูจากการลงสนาม 46 เกมรวมทุกรายการ แต่กลับกลายเป็นว่า ลิโอเนล เมสซี่ คือผู้ที่ได้รับการโหวตให้คว้ารางวัลไปครอง จากผลงานที่ช่วยให้ อาร์เจนติน่า คว้าแชมป์ โกปา อเมริกา ส่วนในปีปัจจุบัน เลวานดอฟสกี้ ก็ยังต้องเจอกับกระดูกชิ้นโต เมื่อมี คาริม เบนเซม่า กองหน้าทีมชาติฝรั่งเศสที่โชว์ฟอร์มอย่างโดดเด่นกับ เรอัล มาดริด เมื่อฤดูกาลก่อนขวางทางอยู่

อย่างไรก็ตาม แม้ว่าโอกาสในปีนี้จะยาก แต่ เลวานดอฟสกี้ ก็ยังเชื่อว่าการอยู่กับบาร์ซ่า จะทำให้เขาประสบความเร็จในรางวัลนี้ได้ง่ายกว่าเดิม โดยกล่าวว่า "บาร์เซโลน่า คือทีมที่มีนักเตะที่ได้รางวัลบัลลงดอร์มากที่สุด และผมก็เชื่อว่าการอยู่กับ บาร์ซ่า จะทำให้หนทางของผม (ที่จะคว้าบัลลงดอร์) สั้นลงกว่าตอนที่อยู่กับ บาเยิร์น มิวนิค"