ตัดเกรดช้างศึกU23 ในวันที่แพ้เวียดนาม แต่ไม่มีอะไรต้องเสียใจ!

จบลงไปเป็นที่เรียบร้อยสำหรับศึกฟุตบอลชิงแชมป์อาเซียน รุ่นอายุไม่เกิน 23 ปี ที่ทีมชาติไทย พ่ายแพ้ให้กับ เวียดนาม 0-1 ในนัดสุดท้ายของรอบแบ่งกลุ่ม เมื่อช่วงค่ำที่ผ่านมา(22 ก.พ. 65)

อย่างไรก็ตามทั้งสองชาติกอดคอกันเข้าสู่รอบรองชนะเลิศ โดยทีมชาติเวียดนาม เข้ารอบในฐานะแชมป์กลุ่ม ไปพบกับ ติมอร์ เลสเต ส่วนทีมชาติไทย เข้ารอบในฐานะทีมอันดับ2 ที่ดีที่สุด พบกับ ทีมชาติลาว ในวันพฤหัสบดีที่ 24 กุมภาพันธ์นี้

บรรดานักเตะทีมชาติไทย จะทำผลงานได้เป็นอย่างไรในเกมที่ผ่านมาไปติดตามกัน


ผู้รักษาประตู

หมายเลข 1 ณรงค์ศักดิ์ เนื่องวงษา : 6.5 คะแนน
ได้โอกาสลงเฝ้าเสาต่อเนื่อง และก็มีจังหวะเซฟสำคัญช่วยทีมได้ดี โดยเฉพาะในช่วงครึ่งเวลาแรก แต่น่าเสียดายที่มาพลาดเสียประตูจากลูกฟรีคิกที่โดนคู่แข่งหลอกยิงเสาแรก ซึ่งส่วนหนึ่งก็ต้องชมผู้เล่นเวียดนามที่ยิงได้อย่างเฉียบขาด ส่วนหลังจากนั้นก็ไม่มีบททดสอบอะไรมากมายนัก


กองหลัง

หมายเลข 13 วาริส ชูทอง : 6.5 คะแนน
โดนเจาะเข้าทำทางฝั่งขวาของตัวเองอยู่บ่อยครั้ง แต่ก็ทำหน้าที่ได้ดีในเกมป้องกัน ขณะที่การเติมเกมรุกที่เป็นจุดเด่นจากในนัดแรกยังไม่สามารถทำได้ตามที่ถนัด เพราะโดนเวียดนามคุมเชิงและทำการบ้านปิดเกมรุกริมเส้นของไทยมาดี

หมายเลข 27 อนุศักดิ์ ใจเพชร : 7.5 คะแนน
ยังคงเป็นหัวใจสำคัญในแผงเกมรับของทีมอย่างแท้จริง มีจังหวะป้องกันลูกกลางอากาศ และชิงจังหวะตัดบอลสวยๆจากการทำเกมรุกของคู่แข่งได้หลายต่อหลายครั้ง แถมด้วยการวางบอลยาวแม่นๆที่ทำได้ตามมาตรฐานตัวเอง หนำซ้ำยังมีโอกาสพังประตูจากการเติมเกมขึ้นไปโหม่ง แต่น่าเสียดายที่โดนไม่เต็ม แม้สุดท้ายจะโดนเปลี่ยนตัวออกในช่วงท้ายเกมแต่ก็ถือเป็นผลงานที่ยอดเยี่ยม ส่วนประตูที่เสียก็มาจากฟรีคิกที่ไม่สามารถช่วยอะไรได้

หมายเลข 5 ชนภัช บัวพันธ์ : 7 คะแนน
เป็นอีกหนึ่งกองหลังที่ยังคงความแข็งแกร่งทั้งจังหวะคอยซ้อนเพื่อนร่วมทีม และการป้องกันลูกกลางอากาศ ดักทางเกมรุกคู่แข่งได้หลายครั้ง โดยภาพรวมถือว่าทำได้ตามมาตรฐานที่ดีของตัวเอง

หมายเลข 3 ธวัชชัย อินทร์ประโคน : 6.5 คะแนน
เป็นอีกคนที่ถูกปิดกั้นการเติมเกมริมเส้นที่เคยทำได้อย่างโดดเด่นในเกมนัดแรก ทำให้ความอันตรายดูจะลดลงไป ส่วนเกมรับก็ทำได้ตามมาตรฐาน มีจังหวะตัดเกมริมเส้นของคู่แข่งได้ดี โดยภาพรวมถือว่าไม่มีอะไรเสียหาย


กองกลาง

หมายเลข 6 สิทธา บุญหล้า : 7 คะแนน
ยังคงเป็นฟันเฟืองสำคัญในเกมตรงกลางของทีมชาติไทย แม้ในช่วงครึ่งแรกอาจจะดูไม่ค่อยมีส่วนร่วมในการเชื่อมเกมมากนัก แต่พอมาครึ่งหลังก็สามารถยกระดับผลงานตัวเองและมีส่วนกับเกมได้ตลอด ทั้งการออกบอลยาว บอลสั้น โดยภาพรวมแล้วถือว่าทำได้ตามมาตรฐานที่ดีของตัวเอง


หมายเลข 7 คคนะ คำยก : 8 คะแนน
จัดว่าเป็นผู้เล่นที่โดดเด่นที่สุดในเกมนี้ของทีมชาติไทยเลยก็ว่าได้ เพราะเจ้าตัวมีส่วนร่วมคอยสร้างสรรค์เกมรุก และสร้างความอันตรายให้กับคู่แข่งได้ตลอดเวลาจากชั้นเชิง ลีลาที่เกินวัย แถมยังวิ่งแบบไม่มีหมด อยู่ในทุกพื้นที่ของสนาม ตัดบอลสวยๆให้ทีมได้หลายครั้ง หนำซ้ำยังมีโอกาสส่องประตูเหน่งๆ แต่น่าเสียดายที่ดันไปเสียหลักก่อนจะยิงไปติดเซฟผู้รักษาประตู ทำให้พลาดตีเสมอไป โดยภาพรวมแล้วจัดว่าเด็ดดวงเลยทีเดียวสำหรับเพลย์เมกเกอร์ของทัพช้างศึกรายนี้

หมายเลข 19 เกริกพล อาบรัมย์ : 6.5 คะแนน
เป็นอีกคนที่ผลงานดูจะเงียบไปหน่อยหากเทียบกับเกมนัดแรก แต่ส่วนหนึ่งก็มาจากคู่แข่งอย่างเวียดนาม ที่เน้นบีบเกมเร็ว ทำให้ไม่สามารถเล่นได้ตามที่ตัวเองถนัด แต่ก็ยังคงมุ่งมั่น พยายามทำเกมรุกให้ทีมแทบทุกเวลาที่อยู่ในสนาม ลูกอันตรายที่สุดในเกมนี้ก็คือจังหวะชิงเหลี่ยมแล้วเปิดให้ ธีรศักดิ์ เผยพิมาย ได้เข้าฮอสเหน่งๆช่วงท้ายครึ่งแรก แต่น่าเสียดายที่เพื่อนยิงหลุดกรอบ ไม่งั้นน่าจะทำให้ทีมมั่นใจและเล่นเกมของตัวเองได้ดียิ่งขึ้น


กองหน้า

หมายเลข 12 ธนวัฒน์ ทรายเพชร : 6.5 คะแนน
เป็นอีกหนึ่งคนที่ไม่ค่อยได้ใช้ความเร็วเล่นงานคู่แข่งมากนัก เพราะโดนจับตายตลอดทั้งเกม หากเทียบกับนัดแรกที่จี๊ดจ๊าดโดนใจ แต่โดยภาพรวมก็ถือว่ามีความพยายามที่ดี แม้พื้นที่จะมีให้เล่นแบบจำกัด แต่ก็คอยวิ่งหาช่องให้เพื่อนได้จ่ายบอลง่ายๆ โดยภาพรวมก็ถือว่าทำได้ดี ก่อนจะโดนเปลี่ยนตัวออกในนาทีที่83

หมายเลข 8 ธีรศักดิ์ เผยพิมาย : 6.5 คะแนน
ดูจะเงียบเหงาไปหน่อยสำหรับกองหน้าตัวเป้าของทีมชาติไทยในเกมนี้ หากเทียบกับนัดแรกที่ยิงได้ 2 ประตู ส่วนหนึ่งก็มาจากการที่โดนกองหลังประกบติด ชนิดที่ไม่ปล่อยให้ได้พักบอลเล่นง่ายๆเลย โอกาสจะแจ้งแบบชัดเจนของเจ้าตัวก็ดูจะเป็นในช่วงท้ายครึ่งแรกจากการง้างยิงหน้าเขตโทษ และตอนที่เข้าฮอสเหน่งๆ แต่ดูจะเน้นเกินไปทำให้บอลโดนไม่เต็มเลยไม่เป็นอย่างที่ใจคิด ถ้าเปลี่ยนจังหวะนั้นเป็นประตูตีเสมอให้ทีมได้ก็น่าจะทำให้ลดความกดดันลงไปเยอะ

หมายเลข 11 นิพิฐพนธ์ วงศ์ปัญญา : 6.5 คะแนน
เป็นอีกหนึ่งแนวรุกที่ดูเงียบเหงาไปสักหน่อย เทียบกับนัดแรกที่หวือหวาพาทัวร์เกมรับได้หลายต่อหลายครั้ง ซึ่งก็เป็นเหมือนกับแข้งไทยหลายๆคนที่โดนคู่แข่งบีบเร็ว ทำให้เล่นในเกมถนัดของตัวเองไม่ได้ ก่อนจะโดนเปลี่ยนตัวออกในช่วงนาทีที่ 63


ตัวสำรอง

หมายเลข 28 ธนาวุฒิ โพธิ์ชัย : 6 คะแนน
ถูกส่งลงสนามมาในนาทีที่ 63 แทนที่ของ นิพิฐพนธ์ วงศ์ปัญญา ซึ่งเจ้าตัวก็ทำผลงานได้อย่างหวือหวา กล้าเลี้ยง กล้าลุย ลีลาการเล่นถือว่าเกินวัย ทั้งๆที่อายุเพียงแค่ 16 ปีเท่านั้น แถมยังเป็นนักเตะที่อายุน้องที่สุดของทีม แต่น่าเสียดายที่ยังขาดเรื่องความเด็ดขาด ซึ่งเป็นจุดที่น้องต้องพัฒนาต่อไป โดยภาพรวมแล้วลงมาทำให้เกมรุกของไทยดูมีมิติมากขึ้น

หมายเลข 10 โอลัคซอน เอ แทมบา : (ไม่สามารถให้คะแนนได้)
มีเวลาในสนามแค่ 7 นาที ทำให้ดูน้อยไปหน่อยที่จะวัดผลอะไรในเกมนี้

หมายเลข 18 ศตวรรษ ลีลา : (ไม่สามารถให้คะแนนได้)
เป็นอีกคนที่ถูกเปลี่ยนตัวมาในช่วงนาทที่83 ทำให้มีเวลาน้อยเกินไปและวัดผลอะไรไม่ได้

หมายเลข 4 ธีร์กวิน จันทร์ศรี : (ไม่สามารถให้คะแนนได้)
ถูกส่งลงมาในช่วงทดเวลาบาดเจ็บ ไม่สามารถวัดผลอะไรได้

สุดท้ายเหมือนเช่นเคยอยากฝากถึงน้องๆในทีมชุดนี้ว่าแม้ผลการแข่งขันจะไม่ออกมาเป็นอย่างที่ต้องการ แต่สิ่งที่น่าชื่นชมคือหัวจิตหัวใจของความเป็นนักสู้ และทัศนคติที่ดีในการเล่นฟุตบอล แม้จะโดนคู่แข่งยั่วยุ และถ่วงเวลาจนคนดูเสียอารมณ์ แต่ทุกคนในสนามยังคงก้มหน้าก้มตาทำหน้าที่ของตัวเอง เล่นในรูปแบบของตัวเอง มีสมาธิอยู่ตลอดเวลา

ซึ่งจุดนี้จะเป็นจุดที่ช่วยส่งเสริมทำให้ทุกคนพัฒนาตัวเองขึ้นได้อย่างแน่นอน แม้จะพ่ายแพ้ในวันนี้ แต่เชื่อว่ามันจะเป็นบทเรียนที่ดีที่จะทำให้ทุกคนนำกลับไปแก้ไข เพื่อกลับมาชนะในวันที่ยิ่งใหญ่กว่าเดิม ขอเป็นกำลังใจให้น้องทุกคนรักษาผลงานและพัฒนาตัวเองให้เก่งขึ้นไปเรื่อยๆ

"บิ๊ก กิโล10"