UFC FIGHT NIGHT จอห์นนี่ วอล์คเกอร์ VS จามาล ฮิลล์

UFC FIGHT NIGHT 

จอห์นนี่ วอล์คเกอร์ VS จามาล ฮิลล์

สนาม : UFC Apex ลาส เวกัส, เนวาด้า

เวลา : 07.00 น. วันที่ 20 ก.พ. (เช้าวันอาทิตย์)

ช่อง : ทรูสปอร์ต 3 (668)

เนื่องจากคู่ของ ราฟาเอล ดอส อันโชส และ ราฟาเอล ฟิซิเยฟ ต้องเลื่อนออกไปเพราะปัญหาเกี่ยวกับ วีซ่า คู่หลักใน UFC FIGHT NIGHT ในเช้าวันที่ 20 ก.พ. ตามเวลาประเทศไทยจึงกลายเป็นเวทีระหว่าง จอห์นนี่ วอล์คเกอร์ และ จามาฮาล ฮิลล์

ต้องยอมรับก่อนว่า แม้เปลี่ยนคู่ชกที่ยังวางตัวเป็นรุ่นไลต์เฮฟวี่เวต อาจไม่ดุเดือดเท่าแต่ก็มีความน่าสนใจ เพราะทุกคนล้วนต้องการแสงไฟที่จะปูทางไปสู่อีเวนต์ใหญ่ แม้ตอนนี้โมเมนตัมดูออกแรงเหวี่ยงไปทาง จามาล ฮิลล์ มากกว่า เพราะเขาเพิ่งชนะในไฟต์ล่าสุดด้วยการน็อค จิมมี่ ครูต ในเวลาเพียง 48 วินาทีพร้อมกับรางวัล Performance of the night เมื่อปลายปีก่อน ซึ่งเรียกได้ว่าเป็นไฟต์ที่น่าจะดีที่สุดในอาชีพ

ฮิลล์ มีสไตล์การต่อสู้ที่แตกต่าง เขาสามารถปล่อยหมัดจากมุมไหนก็ได้ ด้วยความสูง 192 ซม. และช่วงชกยาว 79 นิ้ว เขาสามารถใช้มันได้อย่างดีในหลายๆ ครั้ง แต่ยังไม่สามารถปิดจุดอ่อนทั้งหมดของตัวเองได้อย่างสมบูรณ์ บางคนอาจบอกว่าตลอด 2 ปีใน UFC เขายังไม่เจนเวทีหรือบางคนอาจเรียกว่าเขาเตรียมแผนมาไม่ดีนัก 

ความพ่ายแพ้ต่อ พอล เคร็ก ในไฟต์ก่อนหน้านั้น เห็นได้ชัดว่าระเบียบร่างกายยังไม่ดีพอ เนื่องจากแขนยาวซึ่งเป็นจุดแข็งและจุดอ่อนโดยเฉพาะในระยะประชิด โดนจับล็อก และบางครั้งก็หมดพลัง อ่อนแรงลงระหว่างการแข่ง 

จอห์นนี่ วอล์คเกอร์ มีประสบการณ์มากกว่า เขาเซ็นสัญญากับ UFC ในปี 2018 และแม้อายุไล่เลี่ยกับ ฮิลล์ แต่ก็เข้าวงการศิลปะป้องกันตัวมาก่อน แถมในไฟต์นี้ ความสูงของ ฮิลล์ อาจไม่ใช่ข้อได้เปรียบที่เขาจะใช้ได้ เมื่อต้องเจอคู่ชกที่ตัวสูงกว่า และมีช่วงชกยาวกว่า 

เพียงแต่ 3 จาก 4 ไฟต์ล่าสุด วอล์คเกอร์ แพ้ ครั้งหนึ่งเป็นการน็อค และ อีก 2 แพ้คำตัดสินซึ่งครั้งล่าสุดความปราชัยต่อ ติอาโก้ ซานโต๊ส ถือว่าน่าเจ็บใจ เพราะสิ่งที่เขายังเติมไม่เต็มคือความเด็ดขาดในการปิดเกม ซึ่งคาดเดาได้เลยว่าในครั้งนี้ เขาจะเริ่มต้นด้วยการเปิดเกมแบบไม่เกรงกลัว 

เป็นไปได้ว่าไฟต์นี้ทั้งสองจะเปิดหน้าแลกใส่กันอย่างเต็มที่ จุดตัดอยู่ที่ช่วงชก และการจัดการกับพลังงานของแต่ละคนว่าจะยืนได้ครบยกหรือไม่ และใครจะเป็นฝ่ายปิดเกม ซึ่งความมั่นใจเอนเอียงไปทาง ฮิลล์ แต่ในภาพรวมแล้ว วอล์คเกอร์ ไม่ได้เป็นรอง และด้วยความเจ็บปวดจากการแพ้คำตัดสิน เขาอาจไม่อยากยืนอยู่จนครบยก 

ผลที่คาด : วอล์คเกอร์ชนะน็อก

.

เจมี่ พิคเก็ตต์ VS ไคล์ ดอคุส

การต่อสู้แบบ Catchweight หรือต่างรุ่น เนื่องจากไม่แน่ใจว่า พิคเก็ตต์ ลงหลักปักฐานเรียบร้อยใน UFC หรือยัง จากการเข้ามาใน Dana White’s contender Series ที่ต้องใช้โอกาสถึงครั้งที่สามเพื่อชัยชนะแรก และตอนนี้เขากำลังตามหาชัยชนะที่ 3 ติดต่อกันเพื่อให้ได้จัดกลุ่มเข้าสู่การเป็นผู้ท้าชิงแชมป์ต่อไป 

ทั้ง 2 ไฟต์ที่ผ่านมา พิคเก็ตต์ เอาชนะคำตัดสิน ล่าสุดคือชัยชนะเหนือนักสู้หน้าใหม่ โจเซฟ โฮล์มส์ ซึ่งหากชนะได้ในไฟต์นี้ เส้นทางของเขาใน UFC น่าจะชัดเจนมากขึ้น

ไคล์ ดอคุส น้องชายของ คริส ดอคุส นักสู้รุ่นเฮฟวี่เวตที่เพิ่งแพ้น็อค เดอร์ริค ลูวิส จากความพยายามจะสร้างสีสันใหม่ๆ ให้การต่อสู่รุ่นใหญ่ ซึ่งในปี 2021 ที่ผ่านมา ไคล์ เจอปัญหามากมายจากการเลื่อนชก และในที่สุดก็ได้ออกเวทีเพียง 2 ครั้ง 

เดือนพ.ค. 2021 แพ้ ฟิล ฮอว์ส จากคำตัดสิน และอีกครั้งในเดือนต.ค. พบ เควิน ฮอลแลนด์ ที่สุดท้ายคำตัดสินเปลี่ยนเพราะว่าเกิดการกระแทกที่ศีรษะและ ฮอลแลนด์ หมดสติ การเริ่มต้นไฟต์ในปีนี้จึงน่าจะเป็นฤกษ์ดี หากมันจบลงด้วยชัยชนะ เนื่องจากเขาเป็นหนึ่งในนักสู้ที่มีทั้งเทคนิคและความอึด

ที่จริงแล้วในไฟต์นี้ ดอคุส ไม่ได้แบกประสบการณ์มหาศาล ทั้งที่อายุน้อยกว่า และดูจะได้เปรียบอยู่นิดๆ ในความว่องไว นี่คือการพิสูจน์ตัวเองอย่างแท้จริงของ พิคเก็ตต์ ส่วน ดอคุส ต้องการบอกกับทุกคนว่าเขาคู่ควรที่จะได้เวทีใหญ่กว่านี้

ว่ากันตามตรงหากต้องสู้ครบยก ดอคุส ดูจะเป็นผู้ชนะได้ไม่ยาก เว้นแต่เกมนี้จะมีพลิกด้วยความฮึดของ พิคเก็ตต์ ที่ปล่อยหมดทรงพลังหรือออกตัวแลกจนได้จังหวะเหมาะ ถ้าสู้กับความดุดันของอีกฝ่ายได้ 

ผลที่คาด : ดอคุสชนะซับมิชชั่น