ออสเตรเลี่ยน โอเพ่น D10ภาพที่มองไม่ออก

ออสเตรเลี่ยน โอเพ่น วันที่ 10 ของการแข่งขัน 26 ม.ค. นับจากพรุ่งนี้ไปก็จะยิ่งตื่นเต้นมากขึ้นเรื่อยๆ และทัวร์นาเมนต์ที่ใครๆ บอกว่ายาวนานกลับหดสั้นลงจนไม่อยากให้จบลง เพราะเกิดการพลิกล็อกครั้งแล้วครั้งเล่า 

ก่อนเริ่มการแข่งขัน อเล็กซานเดอร์ ซเวเรฟ มือ 3 ของโลกจากเยอรมนีมุ่งมั่นตั้งใจว่าเขาจะเป็น “บิ๊กทรี” ร่วมกับกับ โนวัค ยอโควิช และ ดานีล เมดเวเดฟ แต่ตอนนี้มือ 1 โลกกำลังเผชิญปัญหาใหญ่เกี่ยวกับสถานะการฉีดวัคซีน ซึ่งหากมีโอกาสจะว่ากันต่อไป 

“ซาสช่า” เป็นหนึ่งในตัวเต็ง เขาโชว์ฟอร์มได้ค่อนข้างดี ซึ่งว่ากันตามตรงเขารู้ว่ามันไม่ได้ดีมากนัก จนกระทั่งร่วงตกรอบ ขณะที่ แอนดี้ มาร์รีย์ กลับมาอีกครั้ง แต่ไม่ได้ไปไกลอย่างที่คาดคิด ถึงอย่างนั้นเขาก็ยอมรับว่าค่อนข้างพอใจกับผลที่ออกมาของตัวเอง 

ส่วนคนที่แฟนๆ เป็นห่วงคือ ราฟาเอล นาดาล ในแมตช์ล่าสุดเขามีอาการเจ็บเล็กน้อย และหยุดพักเกมไป ซึ่งก็คงเจ็บจริง และวินาทีนั้นก็ต้องดูอาการว่าจะไปต่อหรือไม่ จนโดนคู่แข่งประท้วงถึงความไม่ยุติธรรม เมื่อเกมจบลง เขาฝากวาทะถึงตัวเองในปัจจุบันและอนาคตว่าเขาไม่ใช่ชายหนุ่มอายุ 21 ปีอีกแล้ว ดังนั้นเกมรอบรองชนะเลิศจะสำคัญมาก 

หนึ่งในคนที่มาแรงอย่างยิ่งของฝ่ายชาย ไม่ใช่ เมดเวเดฟ ที่พลิกเกมกลับมาชนะ เฟลิกซ์ โอเกอร์-อลิอัสซิม 3-2 เซ็ต 6-7(4-7), 3-6, 7-6(7/2), 7-5 และ 6-4 เพราะเห็นตั้งแต่รอบที่แล้วว่าเขามีปัญหากับสภาพร่างกายและอากาศที่ร้อนจัด แต่เป็น สเตฟานอส ซิซิปาส

มือ 4 ของรายการจากกรีซเพิ่งเอาชนะ ยานนิค ซินเนอร์ 3-0 เซ็ต เขาไม่ได้แข็งแกร่งแบบเข้าวิน 3-0 มาทุกแมตช์ แต่พอมาถึงรอบนี้เห็นได้เลยว่ายิ่งเล่นยิ่งดี ดังนั้นเขาจะทำให้ เมดเวเดฟ เจองานหนักในการล่าแชมป์ที่พลาดไปเมื่อปีก่อนอย่างแน่นอน

สำหรับฝ่ายหญิง แอชลี่ บาร์ตี้ มือ 1 มีทั้งความแกร่งและเสียงเชียร์ เธอเป็นตัวเต็งอย่างไม่ต้องสงสัย แต่คู่แข่งที่น่ากลัวคือความกดดัน เมื่ออยู่ในสถานะที่คนทั้งชาติตั้งหวังก็ต้องยอมรับว่าการต่อสู้กับตัวเองสำคัญยิ่งกว่าคู่แข่งคนใด 

แดเนี่ยล คอลลินส์ จากสหรัฐ และ อิก้า สเวียเท็ค จากโปแลนด์ ไม่ว่าใครจะผ่านเข้ารอบชิงชนะเลิศ พวกเธอจะสร้างประวัติศาสตร์ในรายการนี้ให้ตัวเอง สำหรับ สเวยเท็ค เคยเป็นแชมป์แกรนด์แสลมมาแล้วใน เฟร้นช์ โอเพ่น ตอนนั้นเธออายุเพียง 18 ปี ด้วยวัย 20 ปี ประสบการณ์ที่มีมากขึ้นทำให้เธอเป็นคนที่น่าจับตามากที่สุดคนหนึ่ง 

คอลลินส์ แม้ไม่ใช่ดาวรุ่งแต่นี่คือเวทีใหญ่ที่เธอจะได้แสดงฝีมือให้สมกับที่เดินทางสายเทนนิสมาอย่างยาวนาน เปรียบเทียบกับสายที่มี บาร์ตี้ เป็นตัวเต็ง นี่คือคู่ที่จะสูสีกันอย่างยิ่ง ด้วยแรงบันดาลใจใกล้เคียงกันในการพาตัวเองผ่านเข้ารอบชิงชนะเลิศ 

อะไรก็เกิดขึ้นได้ นี่คือคำที่แฟนๆ กีฬาคงคุ้นเคยกันดี เทนนิส ก็เช่นกัน ตำแหน่งมือวางมีความหมายแต่ก็ไม่มีความหมาย ใครจะรู้ได้ว่าจะเกิดอะไรขึ้น เพราะนี่คือกีฬาที่ต้องใช้ทั้งกายและใจ และการเป็นมือรองที่มีแรงใจขับดันอย่างมากก็ไม่ใช่เรื่องไม่ดี บางทีทั้งเขาและเธออาจมุ่งมั่นอย่างมาก เพียงเพื่อวินาทีที่คว้าชัยชนะก็เป็นไปได้ 

การแข่งขันวันที่ 27 ม.ค. รอบรองชนะเลิศหญิงอยู่ในช่วงเย็น อากาศร้อนจัดคงไม่ร้อนแรงจนเกินไป แต่ภาพของชัยชนะจะเป็นอย่างไร ตอนนี้ไม่มีใครมองออกเลย