Ready To Burn! at fastest street track ลุกไหม้ไปกับพื้นสนามที่เร็วสุดขีดใน เจดดาห์

Ready To Burn! at fastest street track ลุกไหม้ไปกับพื้นสนามที่เร็วสุดขีดใน เจดดาห์
ซาอุดิอาระเบี้ยน กรังด์ ปรีซ์ รายการรองสุดท้ายของฤดูกาล 2021

Ready To Burn! at fastest street track

ลุกไหม้ไปกับพื้นสนามที่เร็วสุดขีดใน เจดดาห์ 

ซาอุดิอาระเบี้ยน กรังด์ ปรีซ์ รายการรองสุดท้ายของฤดูกาล 2021 มีเรื่องให้พูดถึงมากมาย โดยเฉพาะสนามที่ก่อสร้างขึ้นใหม่ ที่ว่ากันว่าทำความเร็วได้สูงสุด มีทางตรงยาวที่จะวัดความแรงของรถและนักขับได้อย่างถึงใจ สามารถรับชมได้ทาง Truesport HD (666)

สนามแห่งนี้ชื่อ เจดดาห์ คอร์นิช เซอร์กิต ตั้งอยู่ห่างใจกลางเมือง 12 กิโลเมตร และมีส่วนที่ยื่นออกไปในทะเลแดงอันสวยงามของเขตประเทศซาอุดิอาระเบีย ผู้ชมจะได้เห็นความงามนี้เป็นครั้งแรกในวันที่ 3-5 ธ.ค. ที่กำลังจะมาถึง ซึ่งในตอนแรกรัฐบาลมีแผนว่าจะสร้างสนามสำหรับแข่งขัน ฟอร์มูล่า วัน และ โมโต จีพี เอาไว้ที่ กิดดิยา เมืองท่องเที่ยวระดับเมกะโปรเจ็คต์แห่งใหม่ที่จะดึงดูดชาวโลก 

แต่หากต้องไปอยู่ที่นั่น ดำเนินการต่างๆ ตามแผน สนามแข่งนี้จะแล้วเสร็จในปี 2023 นั่นช้าเกินไป เนื่องจากรัฐบาลจ่ายเงินค่าลิขสิทธิ์ที่จะดึง ฟอร์มูล่า วัน มาทำการแข่งขันในประเทศภายในปี 2021 ดังนั้นมันจึงมาอยู่ที่ เจดดาห์

ในเดือนสิงหาคม 2019 การออกแบบสนามเริ่มต้นขึ้นโดย อเล็กซานเดอร์ วูร์ซ เป็นที่ปรึกษา เขาคืออดีตนักขับฟอร์มูล่า วันชาวออสเตรีย เวลาต่อมาในเดือนพ.ย. 2020 แถลงการของสหพันธ์ยานยนตร์นานาชาติหรือ FIA ระบุว่าซาอุดิอาระเบียจะมาร่วมปฏิทินการแข่งขัน เมืองเจ้าภาพคือเจดดาห์

เจ้าชาย คาห์ลิด บิน อัล ไฟซัล ประธานสหพันธ์ยานตร์และจักรยานยนตร์ของประเทศเคยกล่าวไว้ว่า สนามแข่งขันซึ่งกำลังจะปรากฏต่อสายตาชาวโลกเป็นเพียง 5 เปอร์เซ็นต์ของแผนงานพลิกฟื้นและพัฒนาชาติ 

เรื่องโครงสร้างก็สำคัญ แต่สิ่งที่องค์ชายคาห์ลิดให้ความสำคัญไม่แพ้เรื่องเครื่องจักรคือความตั้งใจที่จะได้เห็นนักขับสัญชาติซาอุเติบโตในเวทีโลก มีวิศวกรรุ่นใหม่ พัฒนาฝีมือจนเป็นหนึ่งระดับโลก ขณะที่เรื่องเครื่องยนตร์กลไกนั้นมีโครงการแล้วว่าอยากให้มีผู้ผลิตในประเทศเกิดขึ้น

อย่างที่เข้าใจกันว่าตะวันออกกลางรุ่มรวยพลังงาน ซาอุดิอาระเบียมีโครงการ “Saudi Arabia 2030” ที่จะสร้างเมืองเมกะโปรเจ็คต์ ศูนย์รวมเทคโนโลยีทันสมัย วิทยาการต่างๆ ไม่ใช่แค่ให้ผู้คนมาท่องเที่ยว แต่มาเรียนรู้ มีมหาวิทยาลัยชั้นนำ และทั้งหมดอยู่ร่วมโครงการของพัฒนาชาติด้วยกีฬาของมกุฎราชกุมาร โมฮาเหม็ด บิน ซัลมาน เจ้าของ นิวคาสเซิ่ล ยูไนเต็ด นั่นเอง

สนามแห่งนี้คือสนามที่มีความยาวต่อรอบมากที่สุดเป็นอันดับ 2 รองจาก เบลเจี้ยน กรังด์ ปรีซ์ หรือ สปา-ฟรองคอร์ชองส์ เซอร์กิต ที่เราคุ้นเคยชื่อกัน ด้วยความยาวต่อรอบ 6.174 กม. สั้นกว่าที่เบลเยี่ยมเพียง 800 เมตร แต่จุดขายของที่นี่คือการทำความเร็วเฉลี่ย 250 กม./ชม. และมีโซน DRS ถึง 3 ช่วง 

เพื่อให้การแข่งขันแตกต่าง ที่นี่จึงออกแบบเอาไว้ให้เหมาะสมกับการเป็นเรซในยุคโมเดิร์นที่ต่อสู้กันด้วยความเร็ว แต่ก็ล่อหลอกกับจำนวน 27 โค้ง และจะเป็นไนท์เรซ สนามแข่งยามค่ำคืนอีกแห่ง ดังนั้นอย่าแปลกใจหากเห็นสายไฟจำนวนมากติดตั้งอยู่ในพื้นที่มากกว่า 20,000 เส้น ด้วยความสว่าง 1,500 ลักซ์

ด้วยความยาว 6.175 กม. ดังนั้นเวลาในการทำรอบสำหรับนักขับจะอยู่ที่ 1 นาที 27.9 วินาทีโดยประมาณจากการทดลองซิมูเลเตอร์และเปิด DRS 3 โซน เมื่อใส่ตัวเลข 50 รอบลงไป เวลาไม่ถึง 1 ชม. 30 นาทีในรอบจริงจึงน่าตื่นเต้นมาก 

โค้งทั้ง 27 แบ่งเป็นโค้งซ้าย 16 ขวา 11 มีจุดหมุน 13 แห่งที่ 12 องศา ส่วนการใช้ความเร็วที่ว่าไว้เฉลี่ย 250 กม./ชม. แต่ในทางตรงเราอาจเห็นนักขับสักคนเร่งเครื่องไปได้ถึง 322 กม./ชม. และเมื่อเร็วมากความปลอดภัยก็ยิ่งมาก 

ระหว่างก่อสร้าง ทีมงานติดตั้งผนังคอนกรีต 3,300 แผ่น เพื่อไม่ให้เศษซากกระจัดกระจายจากการแข่งขันกรณีเกิดอุบัติเหตุปลิวไปถึงอัฒจันทร์ผู้ชมบนแกนด์แสตนด์ถึง 7 แสตนด์ ในมุมอันสวยงาม โดยเฉพาะโค้งแรง และโค้งที่ 27 นั่นคือจุดที่ดีที่สุดที่จะเห็นการแข่งขัน และการก่อสร้างทั้งหมดนั้นใช้ยางมะตอยมากกว่า 37,000 ตัน

อัปเดตข่าวล่าสุดก่อนใคร :

Website : www.truevisions.co.th

Facebook : Truevisions

Twitter : @TrueVisions

Line : @Truevisions

Youtube official : Truevisionsofficial

Instagram : Truevisionsofficial