โมโตจีพี 2025 เป็นฤดูกาลที่แฟนๆ มีความรู้สึกผสมปนเปทั้งดีและไม่ดีกับการเดินหน้าคว้าแชมป์ของ มาร์ค มาร์เกซ ที่ทั้งสวยงามและต่อเนื่องจนทำให้นักขับรายอื่นๆ โดนกลืนหาย
กระทั่ง มาร์ค ยังบอกด้วยซ้ำว่า หาก อเล็กซ์ มาร์เกซ น้องชายไม่ได้ใช้นามสกุลเดียวกัน อาจได้รับคำชื่นชมอย่างมาก แต่ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นกับ อเล็กซ์ มาร์ค ก็ครองแชมป์โลกสมัยที่ 7
ตั้งแต่ปี 2025 เป็นต้นมา ดอร์น่า (Dorna) ในฐานะผู้จัดการแข่งขัน ได้ให้ความสำคัญกับผลงานในรุ่นโมโตจีพีมากกว่ารุ่นอื่นๆ ที่รองลงมา แนวคิดนี้แม้หลายฝ่ายจะโยงไปถึง ลิเบอร์ตี้ มีเดีย (Liberty Media) เจ้าของใหม่จากสหรัฐอเมริกา แต่แท้จริงแล้วเกิดขึ้นตั้งแต่ก่อนการเข้าซื้อกิจการจะเสร็จสิ้น จุดมุ่งหมายสำคัญคือการสร้างภาพลักษณ์ของแบรนด์ “โมโตจีพี” ให้ทรงพลังยิ่งขึ้น ขยายการรับรู้ไปทั่วโลก และเข้าถึงผู้ชมในพื้นที่ที่กีฬานี้ยังไม่เป็นที่แพร่หลาย
หนึ่งในมาตรการที่เปลี่ยนแปลงคือ การรวมสถิติของการแข่งขันระดับสูงสุดทั้งหมด ตั้งแต่ยุค 500 ซีซี มาจนถึงโมโตจีพีที่เริ่มในปี 2002 ให้เป็นเพียง “โมโตจีพี” เดียว และเน้นการนับจำนวนแชมป์โลกเฉพาะในรุ่นสูงสุด ไม่แยกประเภทเหมือนในอดีต
ฝ่ายจัดการแข่งขันอธิบายว่า “ตั้งแต่ปีนี้เป็นต้นไป ผู้จัดการแข่งขันเริ่มนับจำนวนแชมป์เฉพาะใน โมโตจีพี และสื่อสารในแง่นี้มากขึ้น ไม่ใช่รวมทุกคลาสแบบเมื่อก่อน”
ตลอดประวัติศาสตร์มีนักบิดหลายคนที่คว้าแชมป์โลกในหลายรุ่น เช่น วาเลนติโน่ รอสซี่ 9 สมัย (7 ในโมโตจีพี และ 2 ในรุ่นรอง) ฮอร์เก้ ลอเรนโซ่ 5 สมัย (3+2) ฟรานเชสโก้ บาญาย่า 3 สมัย (2+1) รวมถึง มาร์ค มาร์เกซ ที่มี 8 แชมป์โลกในมือ (6 โมโตจีพี, 1 โมโตทู และ 1 รุ่น 125 ซีซี) และกำลังลุ้นเพิ่มเป็น 9 สมัย
การนับตัวเลขนี้ทำให้แฟนๆ หลายคนไม่พอใจ เพราะเกรงว่าหาก มาร์ค มาร์เกซ คว้าแชมป์อีกสมัยเมื่อจบ กรังด์ปรีซ์ ออฟ เจแปน 2025 อาจนับได้เป็น “แชมป์โมโตจีพี 7 สมัย” โดยไม่นับรวมเป็น “9 แชมป์โลก” เทียบเท่ากับ รอสซี่ ซึ่งดูเหมือนเป็นการลดทอนคุณค่าของความสำเร็จ และเป็นอย่างที่รู้กันว่า รอสซี่ และ มาร์ค เป็นคู่ปรับแห่งยุคก่อนที่ รอสซี่ จะอำลาอาชีพไป
ฝ่ายบริหารของดอร์น่ายืนยันว่า “เรื่องนี้เราพูดคุยกับ มาร์ค มาร์เกซ แล้ว เขาเข้าใจดี เราจะฉลองแชมป์โมโตจีพีสมัยที่ 7 ของเขา แต่ไม่มีใครลบอีก 2 สมัยทิ้งไป”
พร้อมยกตัวอย่างว่า จาโคโม่ อกอสตินี่ จะได้รับการจดจำว่าเป็นแชมป์โมโตจีพี 8 สมัย แต่ก็ยังเป็นแชมป์โลก 15 สมัยโดยรวม
ในมุมของ มาร์ค มาร์เกซ เอง ก็พยายามลดความตึงเครียดเรื่องการนับจำนวนแชมป์แบบเสียงแตก โดยการวางสถิติไว้เบื้องหลัง และเปรียบเทียบคุณค่าของการคว้าแชมป์โลกให้เหมือน "บัลลง ดอร์" ที่ยุคหนึ่งเคยรวมกับ "ฟีฟ่า เดอะ เบสต์" จนเป็นที่วิจารณ์อย่างหนักว่าเป็น "ป็อปปูล่าร์ โหวต" ที่ไม่สะท้อนความสามารถของผู้เล่นคนหนึ่งซึ่งพยายามยกระดับทีม แม้มันยากจะเทียบกับ โมโตจีพี ที่นักแข่งจะโดดเด่นอยู่เบื้องหน้า และมีทีมงานหนุนหลัง เป็นกีฬาบุคคล ไม่ใช่กีฬาประเภททีม
มาร์ค กล่าวว่า “ผมเป็นแฟนบาร์เซโลน่าตัวยง แต่ผมไม่รู้ด้วยซ้ำว่า ลิโอเนล เมสซี่ ได้บัลลงดอร์มากี่ครั้ง ผมแค่รู้ว่าเขามีความหมายต่อฟุตบอลมากแค่ไหน”
ส่วนคำถามว่าเมื่อคว้าแชมป์แล้ว มาร์ค จะชูนิ้วเลข “7” ตามที่ดอร์น่ากำหนด หรือ “9” ตามที่แฟนๆ คาดหวัง (มาร์ค ชูเลข 9 ไปแล้ว) แต่ก่อนหน้านี้ มาร์ค มาร์เกซตอบอย่างถ่อมตนว่า “มันไม่อยู่ในมือผม ตัวเลขสำคัญก็จริง แต่สิ่งที่สำคัญที่สุดคือ ผู้คนจดจำผมจากการที่ผมทุ่มเทสุดกำลังในสนาม การเพิ่มตัวเลขต่อไปต่างหากที่สำคัญ ไม่ใช่ว่าจะต้องนับอย่างไร”
นั่นทำให้คอนเซ็ปต์ที่ออกมาในการฉลองแชมป์โลกที่เห็นคือ More Than A Number ตัวเลขไม่ใช่เรื่องสำคัญ สิ่งสำคัญคือการต่อสู้ระหว่างทางกว่าจะกลับมาตรงนี้ มาร์ค มาร์เกซ ทำให้ดูเหมือนง่ายดาย ทั้งที่จริงไม่ง่ายเลย
สนามถัดไป โมโตจีพี กรังด์ปรีซ์ ออฟ มาเลเซีย วันที่ 3-5 ต.ค. นี้ ถ่ายทอดสดทางแอพพลิเคชั่น ทรูวิชั่นส์ นาว ช่อง MOTOGP1 (618)
📲สมัครและดูได้แล้ววันนี้ NOW Sports 699 บาท/เดือน (2 จอ ดูได้ทุกอุปกรณ์)
📌สมัครเลยคลิก : https://truevisions-now.onelink.me/RQwi/amtu2i53
getty
อัปเดตข่าวล่าสุดก่อนใคร :
Website : www.truevisions.co.th
Facebook : Truevisions
Twitter : @TrueVisions
Line : @Truevisions
Youtube official : Truevisionsofficial
Instagram : TrueVisions Now
