เอ็นริเก้แฮปปี้ปารีสเอาคืนหงส์ ชี้ทีมต้องติดเครื่องถูกเวลา

เปแอสเช ชนะเพียงแค่ 4 จาก 8 เกมในรอบ ลีก เฟส ทำให้ไม่อยู่ในกลุ่มท็อป 8 ของตาราง และไม่ได้ผ่านเข้ารอบ 16 ทีมสุดท้ายแบบอัตโนมัติ ทำให้ต้องไปเล่นในรอบ น็อกเอาท์ เฟส เพลย์ออฟ ก่อนจะถล่ม แบรสต์ ทีมจากชาติเดียวกันมาได้แบบขาดลอย ด้วยสกอร์รวมสองนัด 10-0 และจับสลากมาเจอกับทีมอันดับ 1 ในรอบ ลีก เฟส อย่าง ลิเวอร์พูล ในรอบ 16 ทีมสุดท้าย

อย่างไรก็ตาม แม้ว่าจะแพ้มาก่อนในเกมแรก 0-1 ทั้งๆ ที่เล่นได้เหนือกว่า แต่ทีมของ เอ็นริเก้ ก็ยังทำได้ดีในเกมที่สอง เมื่อเป็นฝ่ายบุกมานำได้ก่อนตั้งแต่นาทีที่ 12 จากประตูของ อุสมาน เดมเบเล่ ก่อนจะรักษาสกอร์ได้ ยาวไปจนจบช่วงต่อเวลาพิเศษ ทำให้ต้องไปดวลจุดโทษตัดสิน ซึ่ง เปแอสเช ยิงแม่นกว่ามาก ขณะที่ ลิเวอร์พูล พลาดไปถึง 2 คน จาก ดาร์วิน นูนเญซ และ เคอร์ติส โจนส์ ทำให้ เปแอสเช ชนะ ไป 4-1 ผ่านเข้าสู่รอบก่อนรองชนะเลิศ โดยจะรอพบผู้ชนะระหว่าง แอสตัน วิลล่า หรือ คลับ บรูซ ต่อไป

หลังจบเกม เอ็นริเก้ เผยว่า การเล่นในรายการอย่าง แชมเปี้ยนส์ ลีก เปรียบเสมือนการวิ่งมาราธอน เพราะไม่เพียงแค่ความสม่ำเสมอเท่านั้น แต่ยังต้องติดเครื่องให้ถูกที่ถูกเวลาอีกด้วย โดยกล่าวว่า "มันไม่สำคัญว่าเราสมควรเป็นผู้ชนะหรือไม่ เพราะทั้งสองทีมต่างเหมาะสมที่จะเข้ารอบ"

"เกมที่ปารีส เราเป็นฝ่ายเล่นได้ดีกว่า (แต่แพ้ 0-1) ส่วนเกมนี้พวกเขาเล่นได้ดีกว่าที่นี่ แต่ลูกทีมของผมแสดงให้เห็นถึงคาแรกเตอร์อันยอดเยี่ยมและจิตใจที่กล้าหาญ ในการเล่นในสนามอย่าง แอนฟิลด์ บรรยากาศในสนามนั้นสุดยอด และรับมือได้ยากมากจริงๆ"

"เมื่อตอนที่เรารู้ว่าจับสลากเจอกับ ลิเวอร์พูล ผมเชื่อว่าเฮดโค้ชทั้งสองฝ่ายต่างคิดเหมือนกัน เพราะนี่จะเป็นหนึ่งในเกมที่ดีที่สุดที่คุณจะได้เห็นในศึก แชมเปี้ยนส์ ลีก ปีนี้"

"สำหรับรายการอย่าง แชมเปี้ยนส์ ลีก แล้ว มันไม่ใช่แค่เรื่องของความสม่ำเสมอเท่านั้น แต่คุณต้องมีจังหวะที่ติดเครื่องได้อย่างถูกที่ถูกเวลาด้วย เราเคยเจ็บปวดกับเหตุการณ์แบบนี้มาเยอะ แต่สำหรับคู่แข่งก็คงไม่ต่างกัน"

ทั้งนี้ การผ่าน ลิเวอร์พูล มาได้ ทำให้ เปแอสเช มีโอกาสสูงที่จะไปถึงอย่างน้อยในรอบรองชนะเลิศ หลังในรอบ 8 ทีมสุดท้ายพวกเขาจะได้เจอกับคู่แข่งอย่าง แอสตัน วิลล่า หรือ คลับ บรูซ ซึ่งถือว่าเป็นรองพวกเขามากพอสมควร