โหมโรงก่อนชิงดำ ยูโรป้า ลีก เซบีย่าหรือโรม่าใครจะเข้าวิน

โหมโรงก่อนชิงดำ ยูโรป้า ลีก เซบีย่าหรือโรม่าใครจะเข้าวิน
ฟุตบอลชิงแชมป์สโมสรยุโรปทั้ง 3 รายการ ไม่ว่าจะเป็น ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก, ยูฟ่า ยูโรป้า ลีก และ ยูฟ่า ยูโรป้า คอนเฟอเรนซ์ ลีก ได้เดินทางมาถึงในรอบชิงชนะเลิศแล้ว และอีกไม่กี่อึดใจก็จะรู้กันแล้วว่า ทีมใดบ้างที่จะได้เป็นแชมป์ของแต่ละรายการ

และในวันพฤหัสบดีที่ 1 มิถุนายนนี้ เวลา 02.00 น. (คืนวันพุธที่ 31 พฤษภาคม) จะเป็นคิวของศึก ยูฟ่า ยูโรป้า ลีก กันก่อน โดยในรอบชิงชนะเลิศของถ้วยนี้จะเป็นการพบกันระหว่าง เซบีย่า จากสเปน  ปะทะ อาแอส โรม่า จาก อิตาลี ซึ่งการเจอกันของคู่นี้ถือว่ามีอะไรที่น่าสนใจไม่น้อย

ย้อนกลับไปดูเส้นทางของทั้งสองทีมในฤดูกาลนี้ ในส่วนของ เซบีย่า นั้น พวกเขาเริ่มต้นจากการเล่นในรายการใหญ่สุดอย่าง แชมเปี้ยนส์ ลีก แต่ถูกจับไปอยู่ในกลุ่มจี ที่มีทีมอย่าง แมนเชสเตอร์ ซิตี้, โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ และ เอฟซี โคเปนเฮเก้น

จะว่ายากก็ไม่ยาก แต่จะว่าง่ายก็ไม่ง่าย ถ้าว่ากันตามเนื้อผ้า เซบีย่า น่าจะต้องพยายามแย่งอันดับ 2 กับ ดอร์ทมุนด์ เท่านั้น ส่วน โคเปนเฮเก้น ถือว่าเป็นเหมือนทีมแจกแต้มประจำกลุ่ม ขณะที่ แมนฯ ซิตี้ คือว่าที่แชมป์กลุุ่มอยู่แล้ว

ปรากฏว่าทุกอย่างก็เป็นไปตามที่หลายฝ่ายคาด แมนฯ ซิตี้ เก็บไป 14 แต้มจาก 6 เกม เป็นแชมป์กลุ่มลอยลำเข้ารอบน็อคเอาท์ไปแบบสบายๆ ขณะที่ ดอร์ทมุนด์ ตามไปเป็นอันดับ 2 หลังมีอยู่ 9 แต้ม ทำให้ เซบีย่า ที่เก็บได้เพียง 5 แต้มจากผลงาน ชนะ 1 เสมอ 2 และแพ้ 3 ได้เพียงอันดับ 3 โดยมีคะแนนเหนือกว่าบ๊วยประจำกลุ่มอย่าง โคเปนเฮเก้น เพียง 2 แต้มเท่านั้น ต้องตกรอบไปเล่นในรอบเพลย์ออฟของศึก ยูฟ่า ยูโรป้า ลีก โดยต้องจับสลากไปเจอกับพวกที่เป็นรองแชมป์ของแต่ละกลุ่มต่อไป

อย่างไรก็ตาม เป็นที่รู้กันดีว่า เซบีย่า นั้นมีความเชี่ยวชาญในการเล่นใน ยูโรป้า ลีก มากๆ การตกจากเวที แชมเปี้ยนส์ ลีก และต้องระเห็จมาเล่นใน ยูโรป้า ลีก นั้น นี่ไม่ใช่ครั้งแรก และพวกเขามักจะทำได้ดีเสมอในรายการนี้ ซึ่งในครั้งนี้ก็ไม่ต่างกัน

ในรอบเพลย์ออฟพวกเขาถูกจับสลากไปเจอกับ พีเอสวี ไอนด์โฮเฟ่น จาก เนเธอร์แลนด์ ซึ่งเกมแรก เซบีย่า ที่ได้เล่นในบ้านก่อนจัดการทุบ พีเอสวี ไปขาดลอย 3-0 ทำให้ค่อนข้างจะผ่อนคลายในนัดที่สอง และก็เกือบจะโดนเล่นงานเหมือนกันเมื่อบุกไปแพ้ต่อ พีเอสวี 2-0 ทำให้ผ่านเข้าสู่รอบ 16 ทีมสุดท้ายแบบฉิวเฉียดด้วยสกอร์รวม 2 นัด 3-2

แต่เมื่อเข้าสู่รอบน็อคเอาท์แล้วก็เหมือนปล่อยเสือเข้าป่า เซบีย่า จัดการล้มคู่แข่งมาได้เรื่อยๆ โดยในรอบ 16 ทีมเอาชนะ เฟเนร์บาห์เช่ มาได้ด้วยสกอร์รวม 2-1 ต่อด้วยในรอบ 8 ทีมต้องมาเจอกับงานหนักอย่าง แมนฯ ยูไนเต็ด ที่ล้ม บาร์เซโลน่า และ เรอัล เบติส มาได้ในรอบก่อนหน้านั้น แต่กระนั้น เซบีย่า ก็โชว์ให้เห็นถึงความเก๋าในรายการนี้ เมื่อจัดการบุกไปเสมอกับปีศาจแดงได้ก่อนในเลกแรก 2-2 ก่อนจะกลับมาถล่มยับในบ้านของตัวเองอีก 3-0 ทำให้รวม 2 นัด เซบีย่า ผ่านเข้ารอบด้วยสกอร์รวมท่วมท้น 5-2

มาถึงในรอบรองชนะเลิศ เซบีย่า ต้องโคจรมาเจอกับ ยูเวนตุส ซึ่งถือว่าไม่ใช่งานง่ายเลย แต่พวกเขาก็โชว์ให้เห็นว่าใครกันแน่ที่เป็นเจ้าแห่งรายการนี้ โดยเลกแรกบุกไปเสมอถึง ตูริน ได้ก่อน 1-1 ก่อนที่จะกลับมาเล่นที่ ราม่อน ซานเชซ ปิซฆวน และเอาชนะไปได้ 2-1 ในช่วงต่อเวลาพิเศษ ทำให้รวม 2 นัด เซบีย่า เข้ารอบด้วยประตูรวม 3-2 ผ่านเข้าสู่รอบชิงชนะเลิศได้สำเร็จ

ข้ามมาทางฝั่งของ "หมาป่าแห่งกรุงโรม" โรม่า ที่มี โชเซ่ มูรินโญ่ นำทัพ พวกเขาจบเป็นอันดับ 2 ของกลุ่มซี หลังเก็บไป 10 แต้มจาก 6 เกม ทำให้ต้องไปรอเจอกับพวกที่ตกมาจาก แชมเปี้ยนส์ ลีก ในรอบเพลย์ออฟ ซึ่งดวงในการจับสลากของ โรม่า ถือว่าไม่แย่นัก เมื่อได้เจอกับ เร้ด บูลส์ ซัลซ์บวร์ก จาก ออสเตรีย แต่กว่าจะผ่านเข้ารอบได้ก็เกือบไปเหมือนกัน หลังเกมแรก ซัลซ์บวร์ก เอาชนะได้ก่อน 1-0 แต่เมื่อกลับไปเล่นที่กรุงโรม โรม่า ก็เก๋าพอที่จะกลับมาแซงชนะ 2-0 ทำให้เข้ารอบ 16 ทีมด้วยสกอร์รวม 2-1

หลังจากนั้นในรอบ 16 ทีม โรม่า จับไปเจอกับ เรอัล โซเซียดาด ถือว่าแข็งแกร่งไม่เบาเลย เพราะในรอบแบ่งกลุ่มสามารถเบียด แมนฯ ยูไนเต็ด เข้ารอบน็อคเอาท์มาในฐานะแชมป์กลุ่มอีได้ จากการมีถึง 15 แต้มจาก 6 เกม แต่ โรม่า ก็โชว์ความเหนียวแน่น เป็นฝ่ายเปิดบ้านชนะไปได้ก่อน 2-0 ก่อนจะบุกไปยันเสมอที่ อาโนเอต้า ในเลกที่สอง 0-0 ทำให้ทีมหมาป่าเหลืองแดงผ่านเข้าสู่รอบ 8 ทีมสุดท้ายได้สำเร็จ

ดวงการจับสลากของ โรม่า ยังดีอย่างต่อเนื่อง เมื่อในรอบ 8 ทีมพวกเขาไม่ต้องไปเจอกับของแข็งที่เหลืออยู่อย่าง แมนฯ ยูไนเต็ด, เซบีย่า หรือ ยูเวนตุส แต่คู่แข่งของพวกเขาในรอบนี้คือ เฟเยนูร์ด ร็อตเตอร์ดัม แต่ถึงกระนั้นก็ไม่ใช่งานง่ายเท่าไหร่นัก เมื่อเกมแรก เฟเยนูร์ด เปิดบ้านเฉือนชนะไปได้ก่อน 1-0 ทำให้ โรม่า ต้องใช้เกมในบ้านเพื่อพลิกสถานการณ์ ก่อนจะกลายเป็นเกมที่สุดดราม่า เมื่อสกอร์เสมอกันอยู่ที่ 1-1 อยู่ถึง 88 นาที ซึ่งอีกแค่ไม่กี่อึดใจ เฟเยนูร์ด จะเป็นฝ่ายเข้ารอบด้วยสกอร์รวม 2-1

แต่แล้วในนาทีที่ 89 โรม่า ยิงแซงนำ 2-1 จาก เปาโล ดีบาล่า นั่นทำให้สกอร์กลับมาเท่ากัน 2-2 ต้องไปตัดสินกันในช่วงต่อเวลาพิเศษ และเป็น โรม่า ที่ยิงอีก 2 ประตู เอาชนะไปอย่างเด็ดขาด 4-1 รวมสองนัดผ่านเข้ารอบรองชนะเลิศได้สำเร็จด้วยสกอร์รวม 4-2 ซึ่งในรอบตัดเชือก โรม่า โคจรมาเจอกับ ไบเออร์ เลเวอร์คูเซ่น ซึ่งถือว่าอ่อนที่สุดแล้วในบรรดาทีมที่เหลือ และ มูรินโญ่ ก็ไม่ปล่อยให้โอกาสนี้หลุดมือ เอาชนะไปได้ 1-0 ในเกมแรก ก่อนจะไปยันเสมอ 0-0 ในนัดที่สอง ทะลุผ่านเข้าสู่รอบชิงชนะเลิศได้ในที่สุด

ทำให้ในรอบชิงชนะเลิศของ ยูฟ่า ยูโรป้า ลีก ปีนี้ เป็นการเจอกันของสองทีมที่มีสถิติในการเล่นรอบชิงชนะเลิศที่น่าสนใจมากๆ

ที่ต้องบอกแบบนั้นก็เป็นเพราะว่า เซบีย่า เคยเป็นแชมป์รายการนี้มาแล้ว 6 สมัย จากการผ่านเข้าชิงชนะเลิศ 6 ครั้ง! นั่นหมายความว่าทีมดังจากสเปนไม่เคยพลาดแชมป์รายการนี้เลย หากว่าทะลุมาถึงรอบชิงชนะเลิศ

ขณะเดียวกัน โรม่า นั้นยังไม่เคยได้แชมป์รายการนี้เลย โดยเคยเป็นรองแชมป์ 1 ครั้งสมัยที่ยังมีชื่อว่า ยูฟ่า คัพ ในฤดูกาล 1990-91 ซึ่งถือว่านานมากๆ หลังจากนั้นก็ไม่เคยผ่านเข้ามาถึงรอบชิงชนะเลิศได้เลย

เทียบสถิติกันแล้ว ดูเหมือนว่า โรม่า จะเป็นรอง เซบีย่า ชัดเจน แต่เดี๋ยวก่อน! ความเก่งของ โรม่า ชุดนี้ อาจจะไม่ใช่ตัวสโมสร แต่เป็นในส่วนของตัวกุนซือ เพราะ โชเซ่ มูรินโญ่ คือชายที่มีความเก่งกาจในรอบชิงชนะเลิศฟุตบอลถ้วยมากที่สุดคนหนึ่ง

กุนซือวัย 60 ปี เคยพาทีมต่างๆ เป็นแชมป์บอลถ้วยมามากมายหลายรายการ โดยกับ เอฟซี ปอร์โต้ เคยได้แชมป์ โปรตุกัส คัพ, ยูฟ่า คัพ และ ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก จากนั้นกับ เชลซี ได้แชมป์ เอฟเอ คัพ และ ลีก คัพ อีก 3 สมัย

กับ อินเตอร์ มิลาน ได้แชมป์ ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก และ โคปปา อิตาเลีย ส่วนกับ เรอัล มาดริด ก็มีแชมป์ โกปา เดล เรย์ และกับที่สุดท้ายก่อนจะมาที่ โรม่า คือ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ซึ่ง มูรินโญ่ ก็พาทีมปีศาจแดงได้แชมป์ ลีก คัพ และ ยูฟ่า ยูโรป้า ลีก

และกับ โรม่า ก็เพิ่งเกิดขึ้นสดๆ ร้อนๆ เมื่อฤดูกาลก่อน เมื่อพาทีมคว้าแชมป์ ยูฟ่า ยูโรป้า คอนเฟอเรนซ์ ลีก มาครองได้ กลายเป็นทีมแรกในประวัตศาสตร์ที่ได้แชมป์รายการที่ทาง ยูฟ่า เพิ่งทำคลอดครั้งแรกเมื่อปีที่่แล้ว

นั่นทำให้การเจอกันระหว่างสองทีมนี้ จะต้องมีทีมใดทีมหนึ่งที่ต้องเพลี่ยงพล้ำและเสียสถิติ ซึ่งผลการแข่งขันในเกมนี้จะเป็นอย่างไร ก็ต้องไปติดตามลุ้นกันในวันพฤหัสบดีที่ 1 มิถุนายนนี้ เวลา 02.00 น. (แข่งคืนวันพุธที่ 31 พฤษภาคม) ทาง ทรูวิชั่นส์ ทางช่อง beIN Sports 3 (ช่อง 609)

ภาพจาก Getty Images

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

อัปเดตข่าวล่าสุดก่อนใคร :

Website : www.truevisions.co.th

Facebook : Truevisions

Twitter : @TrueVisions

Line : @Truevisions

Youtube official : Truevisionsofficial

Instagram : Truevisionsofficial