เมสซี่มั่นใจอาร์เจนติน่า ไปถึงตำแหน่งแชมป์โลกได้แน่

อาร์เจนติน่า ที่มี เมสซี่ เป็นแกนนำ ตะลุยเข้ามาถึงรอบรองชนะเลิศพบกับรองแชมป์โลกทีมล่าสุดอย่าง โครเอเชีย ที่หวังจะเข้าไปชิงชนะเลิศเป็นครั้งที่สองติดต่อกัน โดยรูปเกมในช่วงครึ่งชั่วโมงแรกนั้นสูสีกัน แต่จุดเปลี่ยนของเกมก็เกิดขึ้น เมื่อ ฮูเลี่ยน อัลวาเรซ โดนทำฟาล์วในเขตโทษ และเป็น เมสซี่ ที่รับหน้าที่สังหารเข้าไปอย่างเด็ดขาด ให้ อาร์เจนติน่า ออกนำได้ก่อน 1-0 ในนาทีที่ 34

หลังจากนั้นนาทีที่ 39 อาร์เจนติน่า ก็หนีไปเป็น 2-0 จากความสามารถเฉพาะตัวของ อัลวาเรซ ที่ลากบอลตะลุยจากการเล่นเกมโต้กลับมาคนเดียว ก่อนจะทะลุเข้าไปในเขตโทษ แม้ว่าจะโดนสกัดแต่บอลก็ยังเป็นใจกระเด้งกลับมาเข้าทางให้กองหน้าจาก แมนฯ ซิตี้ จิ้มผ่านตัว โดมินิค ลิวาโควิช นายทวารโครเอเชียเข้าไปตุงตาข่าย ก่อนจะจบครึ่งแรกด้วยสกอร์นี้

ในครึ่งหลังเกมของ โครเอเชีย ไม่กระเตื้องขึ้น แม้จะพยายามเปลี่ยนตัวสำรองลงมาเพื่อเปลี่ยนเกม จนกระทั่งนาทีที่ 69 เมสซี่ ก็แสดงศักยภาพอันสุดยอดของเขาออกมา เมื่อลากบอลหนีการประกบของ ยอสโก้ กวาร์ดิโอล ปราการหลังดาวรุ่งของ โครเอเชีย เข้าไปถึงเส้นหลังด้านขวา ก่อนจะบรรจงจ่ายบอลกลับมาให้ อัลวาเรซ เติมเข้ามาแปจ่อๆ เป็นประตูให้ทีมฟ้าขาวเอาชนะไปอย่างเด็ดขาด 3-0 ทะลุเข้าสู่รอบชิงชนะเลิศได้เป็นทีมแรก รอพบผู้ชนะระหว่าง ฝรั่งเศส กับ โมร็อกโก ในวันอาทิตย์ที่ 18 ธันวาคมนี้

หลังจบเกม เมสซี่ ที่โชว์ฟอร์มยิง 1 จ่าย 1 ในเกมนี้ให้สัมภาษณ์อย่างมั่นใจว่า อาร์เจนติน่า ชุดนี้มีศักยภาพที่จะไปถึงตำแหน่งแชมป์โลกได้แน่ โดยกล่าวว่า "เราออกสตาร์ทเกมแรกในฟุตบอลโลกอย่างย่ำแย่มาก เพราะนั่นคือการแพ้ครั้งแรกในรอบ 26 นัดของเรา มันเป็นเรื่องที่เสียหายอย่างมากจริงๆ"

"เราไม่ได้คาดคิดมาก่อนว่าจะพ่ายต่อ ซาอุดิอาระเบีย มันเป็นบททดสอบที่เจ็บปวดสำหรับเราทุกคน แต่หลังจากนั้นเราก็แสดงให้เห็นแล้วว่าเรามีความแข็งแกร่งมากแค่ไหน เราเอาชนะได้ในทุกเกมหลังจากนั้น มันเป็นเกมที่ยากมาก เพราะทุกเกมคือนัดชิงชนะเลิศ หากเราไม่ชนะ ทุกอย่างก็คงจะกลายเป็นเรื่องที่ยุ่งยากสำหรับเรา"

"ในทัวร์นาเมนท์นี้ เราลงเล่นเกมนัดชิงชนะเลิศมา 5 เกมติดต่อกันแล้ว และก็สามารถเก็บชัยชนะได้ทั้งหมด ซึ่งผมก็หวังว่าเราจะยังคงทำได้เหมือนเดิมในนัดชิงชนะเลิศ เรามีความเชื่อมั่น และในฐานะทีมเรารู้ว่าจะสามารถทำมันได้แน่"