ศึก ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก 2025-26 รอบ ลีก เฟส นัดที่ห้า แมนเชสเตอร์ ซิตี้ จากอังกฤษ จะเล่นที่ เอติฮัด สเตเดี้ยม รับการมาเยือนของ ไบเออร์ เลเวอร์คูเซ่น จากเยอรมนี โดยเกมนี้ แมนฯ ซิตี้ เจ้าถิ่น แม้ว่าจะสะดุดแพ้ในเกมลีกนัดล่าสุด แต่ในภาพรวมถือว่ายังมีฟอร์มการเล่นที่ดี ขณะที่ เลเวอร์คูเซ่น ฟอร์มดีขึ้นมาในช่วงหลัง ทั้งการเล่นในบ้านหรือออกไปเยือน แต่อย่างไรก็ตาม เมื่อวัดกันที่คุณภาพแล้ว ต้องยอมรับว่ายังเป็นรองเจ้าถิ่นอยู่พอสมควร
พรีวิวฟุตบอล ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก 2025-26 รอบ ลีก เฟส นัดที่ห้า
แมนฯ ซิตี้ (อังกฤษ) พบ ไบเออร์ เลเวอร์คูเซ่น (เยอรมนี)
สนาม : เอติฮัด สเตเดี้ยม
เวลา : 03.00 น. พุธที่ 26 กันยายน 2568 (แข่งคืนวันอังคาร)
ถ่ายทอดสดทาง : beIN Sports 3 (ช่อง 609)
สกอร์ที่คาด : แมนฯ ซิตี้ ชนะ เลเวอร์คูเซ่น 3-1
แมนฯ ซิตี้
ทีมเรือใบสีฟ้า ภายใต้การคุมทีมของกุนซือ เป๊ป กวาร์ดิโอล่า พลาดท่าบุกไปพ่าย นิวคาสเซิ่ล ยูไนเต็ด 2-1 ในเกมพรีเมียร์ลีกนัดล่าสุด เมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา ทั้งๆ ที่ก่อนหน้านั้นชนะมา 4 เกมติดต่อกัน และแพ้แค่เกมเดียวจาก 14 นัดหลังสุดในทุกรายการ ทำให้เสียความมั่นใจไปพอสมควร และจากการแพ้เกมล่าสุดทำให้ แมนฯ ซิตี้ มีเพียง 22 คะแนนจาก 12 ในลีก รั้งอยู่อันดับที่ 3 ของตาราง และตามหลังจ่าฝูงอย่าง อาร์เซน่อล ไกลถึง 7 คะแนนแล้ว ถือว่าค่อนข้างเสียหายเลยทีเดียว
อย่างไรก็ตาม ผลงานใน แชมเปี้ยนส์ ลีก ของ แมนฯ ซิตี้ นั้นยังถือว่าทำได้เยี่ยม เมื่อมีสถิติชนะ 3 เสมอ 1 จาก 4 เกมที่ผ่านมา เก็บไปแล้ว 10 แต้ม รั้งอยู่อันดับที่ 4 ของตาราง ทำให้เกมนี้ แมนฯ ซิตี้ น่าจะมุ่งมั่นเป็นพิเศษ เพื่อรักษาตำแหน่งในกลุ่มท็อป 8 ไว้ต่อไป และเรียกฟอร์มเก่งกลับมาให้ได้หลังจากต้องผิดหวังในเกมล่าสุด
ในส่วนของสภาพทีมล่าสุดนั้น แมนฯ ซิตี้ แทบไม่มีปัญหาผู้เล่นบาดเจ็บเลย โดยจะไม่มีแค่ มาเตโอ โควาซิช เพียงรายเดียวเท่านั้นที่มีอาการบาดเจ็บ นอกนั้นไม่มีปัญหา ทำให้เกมนี้จะใช้ผู้เล่นชุดใหญ่ลงสนาม ในระบบการเล่น 4-1-4-1 แนวรุกจะใช้ เออร์ลิง ฮาแลนด์ ยืนเป็นกองหน้าตัวเป้าตามเดิม โดยมีตัวสนับสนุนอย่าง ฟิล โฟเด้น และ ทิจจานี่ ไรน์เดอร์ส ส่วนตัวริมเส้นจะเป็นหน้าที่ของ ซาวินโญ่ และ เฌเรมี่ โดกู โดยมี นิโก้ กอนซาเลซ ยืนเป็นตัวตัดเกมตรงกลาง
เลเวอร์คูเซ่น
เลเวอร์คูเซ่น ภายใต้การคุมทีมของ แคสเปอร์ ฮูลมันด์ มีผลงานที่ถือว่าค่อนข้างดี ล่าสุดพวกเขาแพ้ 2 เกมจากการลงเล่น 15 เกมหลังสุดในทุกรายการ ที่เหลือเป็นการเสมอ 4 และชนะไปถึง 9 เกม นอกจากนี้ 6 นัดหลังสุดยังชนะไปถึง 5 นัด ผลงานในเกมล่าสุดคือการบุกชนะ โวล์ฟสบวร์ก 3-1 ในศึกบุนเดสลีกาเมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา ทำให้ตอนนี้ เลเวอร์คูเซ่น เก็บไปแล้ว 23 แต้มจาก 11 เกม รั้งอยู่อันดับที่ 3 ของตาราง แต่โอกาสลุ้นแชมป์ยังถือว่ายาก เพราะตามหลังจ่าฝูง บาเยิร์น มิวนิค ไกลถึง 8 คะแนน
ส่วนผลงานใน แชมเปี้ยนส์ ลีก นั้น พวกเขาต้องเร่งเครื่องมากกว่านี้ หลังมีสถิติชนะ 1 เสมอ 2 แพ้ 1 จาก 4 เกมที่ผ่านมา มีอยู่ 5 คะแนน รั้งอยู่อันดับที่ 21 ของตาราง หากหวังจะกระโดดขึ้นไปติดท็อป 8 คงต้องชนะแทบทุกเกมในอีก 4 เกมที่เหลือ ซึ่งดูแล้วไม่ใช่เรื่องง่าย
ในส่วนของสภาพทีมล่าสุดนั้น เลเวอร์คูเซ่น มีปัญหานักเตะบาดเจ็บพอสมควร โดยเกมนี้จะไม่สามารถใช้งานผู้เล่นอย่าง ลูคัส บาซเกซ, เอเซเกียล เฟร์นานเดซ, อเล็กซ์ กรีมัลโด้ และ อักเซล ทาเป ที่บาดเจ็บทั้งหมด ขณะที่ โรเบิร์ต อันดริช ติดโทษแบน ทำให้เกมนี้ เลเวอร์คูเซ่น จะมาในระบบ 3-4-3 แนวรุกจะใช้ 3 กองหน้าอย่าง เคลาดิโอ เอเชเวร์รี่, พาทริค ชิค และ เออร์เนสต์ โปคู คอยไล่ล่าประตู ส่วนแดนกลางจะใช้ อิบราฮิม มาซ่า และ อเล็กซ์ การ์เซีย คุมเกม โดยมี อาร์ตูร์ และ ฌองนูเอล เบโลเซียน เป็นตัวริมเส้น
ผู้เล่นที่คาดว่าจะลงสนาม
แมนฯ ซิตี้ (4-1-4-1) : จานลุยจิ ดอนนารุมม่า : มาเตอุส นูเนส, จอห์น สโตนส์, ยอชโก้ กวาร์ดิโอล, นิโก้ โอไรลี่ : นิโก้ กอนซาเลซ : ซาวินโญ่, ทิจจารี่ ไรน์เดอร์ส, ฟิล โฟเด้น, เฌเรมี่ โดกู : เออร์ลิง ฮาแลนด์
เลเวอร์คูเซ่น (3-4-3) : มาร์ค เฟล็คเค่น : จาเรลล์ ควอนซาห์, โลอิก บาเด้, เอ็ดม็อนด์ แทปโซบา : อาร์ตูร์, อเล็กซ์ การ์เซีย, อิบราฮิม มาซ่า, ฌองนูเอล เบโลเซียน : เออร์เนสต์ โปคู, พาทริค ชิค, เคลาดิโอ เอเชเวร์รี่
ความน่าจะเป็น : แมนฯ ซิตี้ ฟอร์มสะดุดมาในเกมล่าสุด ถือว่าเสียหายพอสมควร ทำให้เกมนี้พวกเขาจะมีความมุ่งมั่นอย่างมาก ในการที่จะเรียกฟอร์มกลับมาให้ได้ในทันที แถมการเล่นในบ้านก็ทำให้ได้เปรียบค่อนข้างมาก เพราะปีนี้ลงเล่นในบ้านมา 8 นัดในทุกรายการ พวกเชาชนะไปถึง 7 เกม ขณะที่ เลเวอร์คูเซ่น มีผลงานในการเล่นเกมเยือนไม่ธรรมดาเช่นกัน เมื่อมีสถิติชนะ 6 เสมอ 2 แพ้ 1 จาก 9 นัดรวททุกถ้วย แต่ถ้าวัดกันตามฟอร์มแล้ว แมนฯ ซิตี้ ยังเหนือกว่ามากพอสมควร ทั้งในแง่ของแนวทางการเล่นและคุณภาพนักเตะ ทำให้เกมนี้เชื่อว่าจะเป็นเรือใบสีฟ้าที่ครองเกมบุกมากกว่า ก่อนจะอาศัยความเด็ดขาดทุบเอาชนะไปได้อย่างไม่ยากนัก
สกอร์ที่คาด : แมนฯ ซิตี้ ชนะ เลเวอร์คูเซ่น 3-1
ภาพจาก Getty Images
อัปเดตข่าวล่าสุดก่อนใคร :
Website : www.truevisions.co.th
Facebook : Truevisions
Twitter : @TrueVisions
Line : @Truevisions
Youtube official : Truevisionsofficial
Instagram : TrueVisions Now