หลังจากสร้างประวัติศาสตร์คว้าแชมป์บุนเดสลีกาแบบไร้พ่ายเมื่อ 2 ฤดูกาลที่แล้ว ไบเออร์ เลเวอร์คูเซ่น ยังคงมีผลงานที่ไม่แย่นักภายใต้การนำของ ชาบี อลอนโซ่ เมื่อฤดูกาลที่ผ่านมา หลังสามารถจบในอันดับรองแชมป์บุนเดสลีกา และเสียแชมป์กลับไปให้ บาเยิร์น มิวนิค อย่างไรก็ตาม ในฤดูกาลใหม่ที่กำลังจะเปิดฉากในอีกไม่กี่วันข้างหน้านี้ เลเวอร์คูเซ่น มีการเปลี่ยนแปลงค่อนข้างมาก ไล่ตั้งแต่ตัวกุนซือจนถึงขุมกำลังนักเตะที่ตัวหลักย้ายออกไปหลายราย ทำให้การเตรียมตัวสำหรับฤดูกาล 2025-26 นั้นเต็มไปด้วยความท้าทาย พวกเขาต้องสร้างทีมใหม่อีกครั้งและเป้าหมายคือกลับมามีลุ้นแชมป์บุนเดสลีกาให้ได้
ตลาดนักเตะขาเข้า: เสริมความแข็งแกร่งเชิงลึก
ในช่วงซัมเมอร์นี้ เลเวอร์คูเซ่น ได้มีการเสริมทัพอย่างมีกลยุทธ์เพื่อทดแทนผู้เล่นที่ย้ายออกไป และเพิ่มความลึกให้กับทีม ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงความมุ่งมั่นในการที่จะรักษาความต่อเนื่องในทีม ภายใต้การคุมทีมของกุนซือคนใหม่อย่าง เอริค เทน ฮาก ที่เข้ามารับช่วงต่อจาก ชาบี อลอนโซ่ โดยตัวผู้เล่นที่เด่นๆ ที่้ย้ายเข้ามาสู่ทีมมีดังนี้
จาเรลล์ ควอนซาห์ (35 ล้านยูโร) : กองหลังดาวรุ่งวัย 22 ปีจาก ลิเวอร์พูล ถือว่าย้ายมาในราคาที่สูงพอสมควร เมื่อดูจากผลงานที่ลงเล่นให้ทีมหงส์แดงที่อาจจะยังไม่ได้เป็นตัวหลัก แต่ เลเวอร์คูเซ่น กลับต้องจ่ายถึง 35 ล้านยูโร อย่างไรก็ตาม ด้วยอายุการใช้งานที่ยาวนาน ทำให้ ควอนซาห์ จะเข้ามาเป็นกำลังสำคัญในแนวรับเพื่อทดแทนการจากไปของ โยนาธาน ทาห์ ที่ย้ายไปซบ บาเยิร์น มิวนิค
มาลิค ทิลล์แมน (35 ล้านยูโร) : กองกลางตัวรุกชาวอเมริกันวัย 23 ปี ย้ายมาจาก พีเอสวี ไอนด์โฮเฟ่น ด้วยค่าตัวที่สูงใช้ได้เลย ทิลล์แมนเป็นผู้เล่นที่มีความสามารถในการทำประตูและสร้างสรรค์โอกาส ซึ่งจะเข้ามาทดแทนการจากไปของ ฟลอเรียน เวียร์ตซ์ ที่ตัดสินใจย้ายไปอยู่กับ ลิเวอร์พูล
มาร์ค เฟล็คเค่น (10 ล้านยูโร) : ผู้รักษาประตูชาวดัตช์วัย 32 ปี ย้ายมาจาก เบรนท์ฟอร์ด ด้วยประสบการณ์ในระดับพรีเมียร์ลีกของ เฟล็คเค่น ทำให้ เอริค เทน ฮาก อยากได้เขามาเป็นนายทวารมือหนึ่งคนใหม่ของทีม เพื่อทดแทน ลูกัส ฮราเด็คกี้ ที่ย้ายไปอยู่กับ โมนาโก
อิบราฮิม มาซา (12 ล้านยูโร) : กองกลางตัวรุกดาวรุ่งชาวเยอรมันวัย 19 ปี ย้ายมาจาก แฮร์ธ่า เบอร์ลิน นี่ถือเป็นการซื้ออนาคตอย่างแท้จริงของ เลเวอร์คูเซ่น มาซา เป็นผู้เล่นที่มีพรสวรรค์และถูกคาดหวังว่าจะเป็นอนาคตของทีม
เออร์เนสต์ โปคู (10 ล้านยูโร) : ปีกขวาชาวดัตช์วัย 19 ปี ย้ายมาจาก อาแซด อัลค์มาร์ โปคู เป็นผู้เล่นที่มีความเร็วและทักษะที่ยอดเยี่ยม ด้วยตำแหน่งของเขาแล้ว น่าจะมาทดแทนการจากไปของ เจเรมี่ ฟริมปง วิงแบ็กขวาที่ย้ายไปเล่นให้ ลิเวอร์พูล
คริสเตียน โคฟาเน่ (5 ล้านยูโร) : กองกลางดาวรุ่งวัย 18 ปี ย้ายมาจาก อัลบาเซเต้ ในสเปน ด้วยค่าตัวที่ไม่แพงมาก โดย โคฟาเน่ น่าจะถูกวางไว้เป็นกำลังสำรองของทีม และมีโอกาสพัฒนาฝีเท้าเพื่อช่วยทีมได้มากขึ้นในอนาคต
การจากไปของนักเตะแกนหลักหลายราย โดยเฉพาะ เวียร์ตซ์ และ ฟริมปง ถือเป็นการสูญเสียครั้งใหญ่ของทีม แต่การเสริมทัพด้วยผู้เล่นดาวรุ่งที่มีศักยภาพสูงก็แสดงให้เห็นถึงวิสัยทัศน์ของสโมสรที่ต้องการสร้างทีมเพื่อความสำเร็จในระยะยาว และยังคงเป็นทีมที่น่าจับตามองในฤดูกาล 2025-26 นี้
ภาพรวมของทีม : แกนหลักของทีมที่มีการเปลี่ยนแปลง
เลเวอร์คูเซ่น ในฤดูกาลนี้ น่าสนใจว่าจะเล่นด้วยแนวทางแบบไหน หลังจากที่ผ่านมา ในตอนที่ยังมี ชาบี อลอนโซ่ เป็นกุนซือนั้น มีปรัชญการเล่นที่ชัดเจนมาก โดยเน้นการครองบอล, การเพรสซิ่งสูง และการเล่นเกมรุกที่ดุดัน โดยมีแกนหลักของทีมที่เข้าใจระบบและเล่นร่วมกันมาอย่างยาวนาน แต่ในตอนนี้แกนหลักเหล่านั้นเปลี่ยนแปลงไปแล้ว
แนวรุก : ทีมยังคงมี แพทริค ชิค เป็นกองหน้าตัวเป้าที่แข็งแกร่งและอันตราย โดยมีตัวสนับสนุนอย่าง อามีน อัดลี่ และ เนธาน เตลล่า ขณะที่ตัวสอดแทรกอื่นๆ ยังคงมี วิคเตอร์ โบนิเฟซ กองหน้าไนจีเรียที่สามารถเบียดตัวจริงได้เหมือนกัน รวมถึงตัวที่ย้ายเข้ามาใหม่อย่าง เออร์เนสต์ โปคู ก็เป็นกำลังเสริมที่ดีให้กับทีม
แดนกลาง : การย้ายออกไปของ กรานิต ชาก้า ทำให้แดนกลางต้องมีการปรับเปลี่ยนใหม่ โดย อเล็กซ์ การ์เซีย กองกลางชาวสเปนน่าจะเข้ามาเป็นหัวใจสำคัญในการขับเคลื่อนเกม คอยคุมจังหวะและจ่ายบอล ร่วมกันกับ โรเบิร์ต อันดริช กัปตันทีม และ โยนาส ฮอฟมันน์
แนวรับ : การย้ายออกไปของ โยนาธาน ทาห์ สร้างปัญหาให้กับทีมแน่นอน ทำให้การมาของ จาเรลล์ ควอนซาห์ จะเข้ามาเป็นตัวหลักในแนวรับคนใหม่ให้กับทีม ร่วมกันกับตัวเดิมอย่าง ปิเอโร่ อินคาปิเอ้, เอ็ดมอนด์ แท็ปโซบา และ อาร์ตูร์ ดูแล้วน่าสนใจเหมือนกันว่าแนวรับของ เลเวอร์คูเซ่น จะเล่นได้แข็งแกร่งเหมือนที่ผ่านมาหรือไม่
ความท้าทายและการคาดการณ์
ไบเออร์ เลเวอร์คูเซ่น ในฤดูกาล 2025-26 กำลังเผชิญกับความท้าทายครั้งใหม่จากความเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้น กุนซือก็ต้องเปลี่ยนมาเป็น เอริค เทน ฮาก ที่เคยถูกปลดจาก แมนฯ ยูไนเต็ด รวมถึงบรรดาตัวหลักๆ ก็ย้ายออกไปเกือบหมด ทำให้ต้องสร้างแกนหลักของทีมขึ้นมาใหม่ แต่อย่างไรก็ตาม การเสริมทัพที่เน้นไปที่ผู้เล่นอายุน้อยๆ น่าสนใจว่าจะทำให้ เลเวอร์คูเซ่น ก้าวไปในทิศทางไหน และจะรักษามาตรฐานของทีมเอาไว้ได้หรือไม่ แน่นอนว่าเวลานี้มีแต่คำถามเต็มไปหมด แต่ถ้าพวกเขาจูนติดกันได้เร็ว ด้วยความที่เป็นทีมที่มีพื้นฐานเดิมที่ดี อาจทำให้ เลเวอร์คูเซ่น ยังมีลุ้นเกาะกลุ่มบนของตารางเอาไว้ได้ แต่การลุ้นแชมป์อาจจะยังดูยากเกินไปสำหรับพวกเขาในฤดูกาลนี้
ภาพจาก Getty Images
อัปเดตข่าวล่าสุดก่อนใคร :
Website : www.truevisions.co.th
Facebook : Truevisions
Twitter : @TrueVisions
Line : @Truevisions
Youtube official : Truevisionsofficial
Instagram : TrueVisions Now