แอธเลติก บิลเบา 2025-26 : เป้าหมายคือความคงเส้นคงวา

ภายใต้การคุมทีมของ เอร์เนสโต้ บัลเบร์เด้ กุนซือมากประสบการณ์ ทำให้ บิลเบา ยังคงเป็นทีมที่น่าจับตามอง พวกเขายังคงยึดมั่นในนโยบายการใช้ผู้เล่นท้องถิ่นจากแคว้นบาสก์ ซึ่งเป็นหัวใจสำคัญของสโมสร ทำให้ทีมมีเอกลักษณ์ที่โดดเด่นและเต็มไปด้วยจิตวิญญาณของนักสู้

ตลาดนักเตะขาเข้า : เสริมทัพด้วยผู้เล่นท้องถิ่น
ตามนโยบายของสโมสร แอธเลติก บิลเบา จะเสริมทัพด้วยผู้เล่นที่มีสายเลือดบาสก์เท่านั้น ทำให้ในช่วงซัมเมอร์นี้การเสริมทัพอาจจะไม่ใช่จุดเด่นของพวกเขานัก และผู้เล่นใหม่ที่ย้ายเข้ามาอาจจะไม่ได้เรียกเสียงฮือฮาอะไรแต่อย่างใด

เฆซุส อาเรสโก้ (12 ล้านยูโร) : แบ็กขวาวัย 26 ปีจาก โอซาซูน่า ถือเป็นการได้กลับมาสู่ถิ่นเก่าของเขาอีกครั้ง หลังจากที่ อาเรสโก้ เคยเป็นเด็กฝึกหัดของ บิลเบา มาก่อนในช่วงระหว่างปี 2017-2021 และเล่นให้กับ บิลเบา ชุดบีไปถึง 77 เกม แต่ขยับขึ้นชุดใหญ่ไม่ได้ ทำให้เขาตัดสินใจย้ายไปที่ โอซาซูน่า ซึ่งที่นี่ทำให้เข้ามีโอกาสลงสนามอย่างสม่ำเสมอ โดยเฉพาะในช่วง 2 ปีหลังสุดที่เป็นตัวหลักของทีม ทำให้ บิลเบา ตัดสินใจดึงตัวเข้ากลับมาร่วมทีมอีกครั้งในซัมเมอร์นี้ และเป็นการเข้ามาเติมเต็มในตำแหน่งของ ออสการ์ เด มาร์กอส แบ็กขวาจอมเก๋าวัย 36 ปี ที่ประกาศแขวนสตั๊ดไปเรียบร้อย

โรเบิร์ต นาบาร์โร่ (ไม่มีค่าตัว) : ปีกขวาวัย 23 ปี ที่ บิลเบา ไปดึงตัวมาจาก มายอร์ก้า แบบไร้ค่าตัว เขาเป็นผู้เล่นที่ค่อนข้างสารพัดประโยชน์ เพราะสามารถเล่นได้หลากหลายตำแหน่งในแนวรุก ไม่ว่าจะเป็นปีกตัวริมเส้น, กองหน้า หรือจะถอยมาเป็นมิดฟิลด์ตัวรุกก็ทำได้ นอกจากนี้ นาบาร์โร่ ยังมีประสบการณ์ค่อนข้างมากแม้ว่าจะอายุยังน้อย เขาเคยผ่านการเป็นดาวรุ่งในหลายสโมสร ไม่ว่าจะเป็น โอซาซูน่า, บาร์เซโลน่า, โมนาโก และ เรอัล โซเซียดาด

เขามีผลงานในการเล่นทีมชุดบีของ โซเซียดาด ที่โดดเด่นไม่น้อย เมื่อทำไป 11 ประตูจาก 64 เกม ทำให้ถูกดันขึ้นสู่ชุดใหญ่ทันทีในปี 2022 ก่อนจะถูกปล่อยให้ กาดิซ ยืมตัวไปใช้งานในฤดูกาล 2023-24 และย้ายไปอยู่กับ มายอร์ก้า ด้วยสัญญาระยะสั้น 1 ปีในช่วงซัมเมอร์ปี 2024 และโชคชะตาก็ทำให้เขาได้ย้ายมาอยู่กับ บิลเบา ในฤดูกาลนี้

ภาพรวมของทีม : พลังแห่งสายเลือดบาสก์
แอธเลติก บิลเบา ในฤดูกาลนี้มีจุดเด่นอยู่ที่ความสามัคคีและความเข้าใจในเกมของนักเตะทุกคน ผู้เล่นส่วนใหญ่เติบโตมาจากระบบเยาวชนของสโมสร ทำให้พวกเขารู้ใจกันเป็นอย่างดี

แนวรุก : มี อินญากี้ วิลเลียมส์ เป็นตัวชูโรงในแดนหน้า ด้วยความเร็วและพละกำลังที่ยอดเยี่ยม ทำให้เขาสามารถสร้างความอันตรายให้กับคู่แข่งได้ตลอดเวลา ขนาบข้างโดยน้องชายอย่าง นิโก้ วิลเลียมส์ ที่ตัดสินใจไม่ย้ายไป บาร์เซโลน่า และต่อสัญญาใหม่ไปอีก 10 ปี รวมถึง มิเกล โอยาร์ซาบัล ที่หวังพึ่งได้เสมอและมีความอันตรายในเกมรุกมากที่สุดอีกคน

แดนกลาง : พวกเขามีตัวดีๆ มากมายในแดนกลาง นำทัพโดย อเล็กซ์ เบเรนเกร์, ออยฮาน ซานเซ็ท และ อินญิโก้ รุยซ์ เด การ์ลาเรต้า รวมถึงตัวอื่นๆ ที่พร้อมสนับสนุนทีมได้ตลอดอย่าง มิเกล เบสก้า, อูไน โกเมซ และ มิเกล เฆาเรกิซาร์ ทำให้แดนกลางของ บิลเบา เป็นหนึ่งในทีมที่มีความแข็งแกร่งมากที่สุดของลีก

แนวรับ : บิลเบา มี ดาเนียล บีเบียน และ เยราย อัลบาเรซ เป็นคู่เซนเตอร์จอมแกร่ง คอยบัญชาเกมรับอยู่ด้านหน้าผู้รักษาประตูอย่าง อูไน ซิมอน นายด่านทีมชาติสเปนฝีมือดี ส่วนแบ็กซ้ายและขวาในฤดูกาลใหม่นี้ คาดว่าจะเป็นหน้าที่ของ อินญิโก้ เลกูเอ และ เฆซุส อาเรสโก้

ความท้าทายและการคาดการณ์
แอธเลติก บิลเบา ในฤดูกาล 2025-26 กำลังอยู่ในช่วงเวลาที่น่าตื่นเต้น พวกเขาต้องรับมือกับความท้าทายทั้งการทำผลงานใน ลา ลีกา และต้องลงเล่นในรายการใหญ่อย่าง ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก สิ่งสำคัญสำหรับพวกเขาในฤดูกาลนี้คือการรักษาฟอร์มการเล่นในลีกให้คงเส้นคงวา และพยายามไปให้ไกลในฟุตบอลยุโรป แน่นอนว่า บิลเบา เป็นทีมที่ดี แต่พวกเขาไม่ใช่ทีมเต็งแชมป์ โอกาสจะก้าวขึ้นไปลุ้นความสำเร็จใน ลา ลีกา กับทีมหัวแถวอย่าง เรอัล มาดริด, บาร์เซโลน่า และ แอตเลติโก มาดริด นั้น ยังเป็นเรื่องยากสำหรับพวกเขาอยู่ แต่กระนั้นในฟุตบอลถ้วยอย่าง โกปา เดล เรย์ พวกเขามีลุ้นอย่างแน่นอน และด้วยขุมกำลังที่แข็งแกร่งบวกกับจิตวิญญาณแห่งนักสู้ของนักเตะทุกคน ทำให้ บิลเบา เป็นทีมที่ประมาทไม่ได้ และมีลุ้นคว้าความสำเร็จในฤดูกาลใหม่ที่กำลังจะมาถึงได้เช่นเดียวกัน