มาเรสก้าปลื้มสิงห์แซงเบติส ซิวแชมป์คอนเฟอเรนซ์ตามเป้า

เชลซี ที่ถูกยกให้เป็นเต็งแชมป์รายการนี้มาตั้งแต่แรก ต้องโคจรมาเจอกับ เรอัล เบติส ในเกมรอบชิงชนะเลิศ ยูฟ่า ยูโรป้า ลีก เมื่อคืนวันพุธที่ผ่านมา โดยเกมในครึ่งแรกนั้นทีมสิงห์บลูส์เล่นได้ไม่ดีนัก และเป็นฝ่ายโดน เบติส ออกนำไปก่อน จากการยิงของ อับเด เอซซาลซูลี่ ตั้งแต่นาทีที่ 9 และเป็นประตูเดียวที่เกิดขึ้นในช่วงครึ่งแรก

อย่างไรก็ตาม เชลซี เปิดเกมบุกอย่างหนักในครึ่งหลัง ก่อนจะยิง 4 ลูกรวดในช่วง 25 นาทีสุดท้ายของเกม โดยได้ประตูตีเสมอจาก เอ็นโซ่ เฟร์นานเดซ นาทีที่ 65 ก่อนจะพลิกนำเป็นครั้งแรกของเกมนี้จาก นิโกล่าส์ แจ็คสัน นาทีที่ 70 และมาได้เพิ่มอีก 2 ประตูจาก เจดอน ซานโช่ นาทีที่ 83 และปิดท้ายด้วยประตูของ มอยเซส ไกเซโด้ ในช่วงทดเวลาบาดเจ็บ

ทำให้จบเกม เชลซี เป็นฝ่ายพลิกชนะไปอย่างขาดลอย 4-1 คว้าแชมป์ไปครองได้อย่างยิ่งใหญ่ และยังทำสถิติเป็นสโมสรแรก ที่คว้าแชมป์ยุโรปได้ครบทุกถ้วย ทั้ง ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก, ยูฟ่า ยูโรป้า ลีก, ยูฟ่า คอนเฟอเรนซ์ ลีก, ยูฟ่า ซูเปอร์ คัพ และ ยูฟ่า คัพ วินเนอร์ส คัพ (ยกเลิกไปแล้ว)

หลังจบเกม มาเรสก้า ยอมรับตามตรงว่ามีความสุขเป็นอย่างมาก ที่ลูกทีมคว้าแชมป์มาครองได้ตามเป้าหมาย โดยกล่าวว่า "ผมมีความสุขมาก ครึ่งแรกผมหงุดหงิดนิดหน่อย เพราะเราเข้าเกมได้ไม่ถูกต้อง เราอาจจะดีใจมากเกินไปหน่อยจากเกมล่าสุดที่เราบุกชนะ น็อตติ้งแฮม ฟอเรสต์ เพราะคุณต้องรอมาตลอดทั้งฤดูกาล (เพื่อคว้าตั๋ว แชมเปี้ยนส์ ลีก) ดังนั้น ครึ่งแรกเราเลยเจอกับความลำบากอยุ่บ้าง แต่ในครึ่งหลังเราทำได้ดีขึ้นมาก"

"ผมบอกกับลูกทีม (หลังจบเกมกับฟอเรสต์) ว่าถ้าเราอยากจะเป็นทีมที่สำคัญ เราต้องชนะในรอบชิงชนะเลิศให้ได้ จริงๆ แล้วเราเสียเปรียบ เรอัล เบติส เพราะพักน้อยกว่าถึง 2 วัน พวกเขา (เบติส) เล่นเกม ลา ลีกา ไปตั้งแต่เมื่อวันศุกร์แบบที่ไม่ต้องลุ้นอะไรแล้ว แต่เราต้องเล่นเกมพรีเมียร์ลีกในวันอาทิตย์ที่มีเดิมพันที่สูงกว่ามาก มันเลยทำให้เกมนี้มีทั้งความสุขและความเหนื่อยล้า"

สำหรับ เชลซี ภายใต้การคุมทีมของ เอ็นโซ่ มาเรสก้า นั้น ถือว่าค่อนข้างประสบความสำเร็จอย่างมากในฤดูกาลนี้ หลังจบในอันดับ 4 ของพรีเมียร์ลีก และคว้าโควต้าไปเล่นใน ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก ปีหน้าได้สำเร็จ และยังสามารถคว้าแชมป์ ยูฟ่า คอนเฟอเรนซ์ ลีก มาครองได้อีกด้วย โดยทำสถิติชนะ 12 แพ้ 1 จากทั้งหมด 13 เกมตลอดเส้นทางสู่แชมป์ในรายการนี้